อธิบดีกรมศิลป์จวกยับ ช่องส่องผี สั่งห้ามถ่ายทำในโบราณสถานอีกเด็ดขาด ฝ่าฝืนดำเนินคดีทั้งแพ่งและอาญา

อธิบดีกรมศิลป์จวกยับ ช่องส่องผี สั่งห้ามถ่ายทำในโบราณสถานอีกเด็ดขาด ฝ่าฝืนดำเนินคดีทั้งแพ่งและอาญา

วันที่ 4 กรกฎาคม 2563 นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยกรณีรายการช่องส่องผี ดำเนินรายการโดยบ๊วย -เชษฐวุฒิ วัชรคุณ เรนนี่ -สุระประภา คำขจร และเจมส์- ศราวุฒิ วรพัทธ์ทีวีโชติ ตระเวนเล่าเรื่องลี้ลับโดยเข้าไปถ่ายทำรายการในโบราณสถานช่วงกลางคืน รวมทั้งสร้างความเชื่อที่บิดเบือนประวัติศาสตร์ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในสังคม ว่าก่อนหน้านี้ นายเชษฐวุฒิ ทำหนังสือ ขออนุญาตถ่ายทำรายการโบราณสถานหลายแห่ง มายังกรมศิลปากร ทั้งพระราชวังนารายณ์ราชนิเวศน์ รวมถึงวางแผนหล่อพระพุทธองค์หลวงพ่อเชียงแสน ที่ วัดกระซ้าย (ร้าง) ซึ่งเป็นโบราณสถาน

โดยกรมศิลปากร ส่งหนังสือแจ้งกลับไม่อนุญาตให้ถ่ายทำรายการดังกล่าวเนื่องจาก อาจเป็นเหตุให้โบราณสถานเสียหายทำลาย ทำให้เสื่อมค่า ซึ่งหากฝ่าฝืนจะต้องระวางโทษตามมาตรา 32 แห่ง พ.ร.บ. โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2504

นอกจากนี้ มีการตรวจสอบพบว่า นายเชษฐวุฒิ เข้ามาถ่ายทำรายการช่องส่องผี และนำไปเผยแพร่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 8 และ ยูทูปโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากอธิบดีกรมศิลปากร ซึ่งในส่วนนี้จึงส่งหนังสือแจ้งระเบียบการถ่ายทำสารคดีในเขตโบราณสถาน พ.ศ. 2547 และ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2548 ให้แก่นายเชษฐวุฒิ ให้รับทราบ โดยการถ่ายทำจะต้องส่งบทบรรยายเรื่องหรือสคริป หรือบทภาพยนตร์แบบฉากและเครื่องแต่งกาย จำนวนนักแสดงและบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณาอนุญาตด้วย

กรมศิลปากร ได้แจ้งให้สำนักศิลปากรทั่วประเทศ บังคับใช้ระเบียบแนวปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เนื่องจากที่ผ่านมา หลังรายการช่องส่องผีเผยแพร่ออกไปมีประชาชนแห่เข้ามาวางเครื่องสักการะ เซ่นไหว้จนเกลื่อนกราดโบราณสถานสกปรกเลอะเทอะต้องให้เจ้าหน้าที่ทำความสะอาด ทั้งนี้ กรมศิลปากรขอเตือนไปยังรายการต่างๆ ที่จะเข้าถ่ายทำในเขตพื้นที่โบราณสถานให้ยึดถือระเบียบปฏิบัติที่ระบุไว้ และหากพบมีการบุกรุกในยามวิกาลต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

"การละเมิดเข้าโบราณสถานโดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษตามกฎหมายทั้งจำและปรับ กรมศิลปากรมีแนวทางชัดเจนไม่ยอมให้ถ่ายทำรายการที่สร้างความเสื่อมเสียให้โบราณสถานอีก และจะไม่ยอมให้ใช้พื้นที่โบราณสถานในการนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้องต่อสังคม สร้างความเชื่อผิดๆ โดยเฉพาะการบิดเบือนประวัติศาสตร์ รวมถึงแอบอ้างสื่อสารถึงบูรพกษัตริย์ส่วนเรื่องความเชื่อเรื่องผีเป็นสิทธิของประชาชน และได้สั่งการให้เจ้าหน้าสอดส่องดูแลพื้นที่ให้เข้มงวด เพื่อปิดช่องโหว่ในส่วนโบราณสถานที่ไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ประจำ จะไม่ให้เกิดกรณีแบบรายงานดังกล่าวอีก ถ้ามี ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย" นายประทีป กล่าว