สะพัดเจอ 2 ชายปริศนา

สะพัดเจอ 2 ชายปริศนา

กำลังเป็นประเด็นร้อนอยู่ในขณะนี้ การเสียชีวิตปริศนาของเด็กหญิง วัย 3 ขวบ “น้องชมพู่” ที่ถูกพบเป็นศพบนภูเหล็กไฟ บ้านกกกอก หมู่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา เกือบ 2 เดือนแล้วยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ ล่าสุด มีข้อมูลเพิ่มเติมว่า พ่อแม่ของน้องชมพู่เคยแยกกันอยู่ โดยแม่ท้องตอนแยกกับพ่อ รวมทั้งพฤติกรรมน่าสงสัยว่าอาจจะเป็นคนฆ่าลูก 100%
 

สำหรับความคืบหน้ากรณีดังกล่าวนั้น ในรายการทุบโต๊ะข่าวได้เผยความคืบหน้ากรณีดังกล่าวนั้น นางลิ้นจี่ (นามสมมติ) ชาวบ้านกกกอก เปิดเผยว่า มีคนในหมู่บ้านกกกอกลือกันว่า ในวันที่ชาวบ้านเจอศพของน้องชมพู่ จุดที่พบรองเท้าของน้องชมพู่ มีชาย 2 คนยืนอยู่ใกล้ระยะประมาณ 4 เมตร และป้าตุน คนที่เห็นรองเท้าของน้องชมพู่ได้ยินเสียงคล้ายกับชายปริศนา 2 คนยืนคุยกันอยู่จึงตกใจ ซึ่งชาวบ้านหลายคนเห็นแต่ไม่กล้าพูด

สะพัดเจอ 2 ชายปริศนา

ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้มาพูดคุยกับนางตุนมา พรหมงอย ชาวบ้านที่พบรองเท้าอีกครั้ง โดยนางตุนมา ยืนยันว่าวันที่ 14 พ.ค.63 ที่ตนไปเจอรองเท้านั้น ได้ยินเสียงคนพูดคุยกันจริง แต่มองไม่เห็นคนพูด และไม่รู้ว่าต้นเสียงมาจากทางไหน และตอนที่ตนเจอรองเท้านั้นเป็นช่วงบ่าย 

นางตุน ยังเล่าต่อว่า ส่วนบริเวณที่เจอศพน้องชมพู่นั้น ตนก็มองไปทางนั้นอยู่ แต่มองแบบผ่าน ๆ เพราะสายตาตนมองหาแต่ผักหวาน ซึ่งตนก็ไม่เห็นศพน้องชมพู่แต่อย่างใด เท่าที่จำได้ ตอนนั้นแดดก็ส่องลงพื้นดินค่อนข้างมาก

นายสมบัติ บอกว่า ในเวลา 18.40 น. พบเจอศพเด็ก แต่ศพไม่สวมเสื้อผ้า นอนหงายกำมือ เห็นบาดแผลขีดข่วนตามลำตัว ไม่ได้สัมผัสศพเด็ก 

ส่วนนายไชย์พล บอกว่า เวลาประมาณ 18.40 น. พบศพเด็ก แต่ศพไม่สวมเสื้อผ้า นอนหงาย เห็นบาดแผลตามร่างกาย นำเสื้อส่งให้เจ้าหน้าที่คลุมศพ สำหรับกรณีนางดอกไม้ (นามสมมติ) เป็นชาวบ้านที่ได้ค้นหาในวันที่ชมพู่หายตัวไป และเป็นคนรับโทรศัพท์สายปริศนา โดยสายดังกล่าวโทรเข้ามา ก็มีคนเรียกให้ตนมารับสาย ตนจึงไปรับสาย ตอนรับสาย ปลายสายก็แค่ “ฮัลโหล ๆ” และเรียกชื่อ “นุชๆๆ” ตนก็บอกว่านุชไปรับลูกแถวบ้านกกตูม ไม่ได้เอาโทรศัพท์ไป

สะพัดเจอ 2 ชายปริศนา
 

เสียงปลายสายเป็นเสียงผู้ชาย จากนั้นได้ยินเสียงเหมือนประมาณว่า “ลูกมึงหายหรอ” ตอนนั้นเพื่อน ๆ ที่นั่งตรงแคร่ก็คุยกับตน โดยมีน้องคนหนึ่งนั่งข้าง ๆ ตน ได้ยินเสียงหัวเราะ คล้ายมีการเยาะเย้ย ซึ่งตนไม่ได้สนใจ แต่น้องที่นั่งข้าง ๆ ตั้งข้อสังเกตทำนองว่าหากรู้ว่าลูกเขาหายทำไมถึงหัวเราะออกมา ส่วนคนที่ได้ยินเสียงว่าคุยโทรศัพท์เรื่องอะไรกัน เพราะตนเปิดลำโพง

ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับนางนก (นามสมมติ) ชาวบ้านกกกอก ให้ข้อมูลกับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า ตำรวจได้ยินชาวบ้านเล่าต่อ ๆ กันมาว่า เมื่อเช้าวันที่ 12 พ.ค.63 หลังจากน้องชมพู่หายตัวไป 1 วัน มีสายปริศนาโทรมาหาแม่น้องชมพู่ และแม่น้องชมพู่ก็เป็นคนรับสายดังกล่าวด้วยตัวเอง

ในสายก็มีผู้ชายปริศนาพูดขึ้นมาว่า “รู้หรือเปล่า ว่าเราเป็นใคร” โดยพูดประโยคนี้ย้ำ 2 ครั้ง จากนั้นนางสาวิตรีแม่น้องชมพู่ก็ตอบว่า “ฉันไม่รู้ว่าคุณคือใคร แต่คิดว่าคุณคงจะเป็นคนหนึ่ง ที่ช่วยตามหาน้องชมพู่” จากนั้นชายปริศนาจึงพูดต่อว่า “ลูกไม่ได้หายหรอก เดี๋ยวมีคนเอามาคืน”

สะพัดเจอ 2 ชายปริศนา

โดยตนเองก็ไม่แน่ใจว่าสายของชายปริศนานี้ จะตรงกับสายที่โทรมาหาแม่น้องชมพู่ ในเวลาประมาณ 19.30 น. ของนางดอกไม้ (นามสมมติ) ที่รับสายหรือไม่ เพราะช่วงนั้นคนก็โทรมาหาแม่น้องชมพู่มาก ตนก็คิดว่าอาจเป็นพวกร่างทรงหรือไม่

ส่วนคำพูดที่ชายปริศนาพูดในสายว่า “เดี๋ยวจะเอาน้องมาคืน” ตอนนั้นตนก็ยังไม่แปลกใจอะไร เพราะหมอดูคนไหนก็จะพูดทำนองนี้ทั้งหมด แต่ในใจลึก ๆ ตนก็คิดว่า ชายปริศนาดังกล่าวไม่น่าจะเป็นคนร้าย และหลังจากเกิดเหตุแม่น้องชมพู่ก็ไม่ได้เล่าเหตุการณ์อะไรเกี่ยวกับสายโทรศัพท์ให้ตนและชาวบ้านฟังอีกเลย

ขอบคุณคลิปจาก AMARIN TVHD