เด็กน้อย 9 ขวบ มาหานักกายภาพบำบัด หลังมีอาการปวดตึงคอบ่า แม้แต่หมอยังไม่อยากจะเชื่อ

เด็กน้อย 9 ขวบ มาหานักกายภาพบำบัด หลังมีอาการปวดตึงคอบ่า แม้แต่หมอยังไม่อยากจะเชื่อ

จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก หลังสวนคลินิกกายภาพบำบัด โพสต์ภาพเหตุการณ์ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับเด็กชายวัยเพียง 9 ขวบ หลังจากพบว่ามีอาการปวดหลังตึงคอบ่า ซึ่งเป็นอาการของโรค office syndrome ที่แม้แต่หมอยังไม่คาดคิดว่าจะเกิดกับเด็กอายุน้อย ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการที่เด็กเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน

เพจเฟซบุ๊กโพสต์ข้อความระบุว่า "เด็กน้อย 9 ขวบ มาหานักกายภาพบำบัด ด้วยอาการปวดตึงคอบ่า !!!!!!!! เคสนี้ยอมรับว่าตกใจมากตอนรับเคส เพราะไม่ค่อยเจอเคสอายุน้อยๆ ที่มาด้วยอาการปวดตึงคอบ่า (office syndrome) ขอชื่นชมผู้ปกครองก่อนอันดับแรกที่พาน้องมาปรึกษานักกาพบำบัดจากการสังเกตว่าลูกเอียงคอไปมาซ้ายที ขวาทีบ่อยๆ จนคิดว่าน้องมีอาการผิดปกติ

คำถามแรกของนักกายภาพฯ คือ น้องเล่นโทรศัพท์มาใช่ไหมแม่ เล่นบ่อยแค่ไหน แม่บอกว่าน้องเล่นเกือบทั้งวัน(เพราะโควิดเป็นเหตุสังเกตได้) เรียนวันเว้นวัน วันหยุดจึงมีเวลาเล่นโทรศัพท์เยอะ ตรวจร่างกาย พบไหล่ห่อ คอยื่น หลังงุ้ม ชัดเจน มีจุดกดเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อฐานคอรอบๆ และมีอาการตึงของกล้ามเนื้อคอบ่าและหน้าหน้าอก

รักษาเคสนี้ใช้ประคบแผ่นร้อนและใช้หัตถบำบัดคลายกล้ามเนื้อ(Manual release) ร่วมกับการยืดกล้ามเนื้อและให้ทำท่าบริหารแก้อาการโดยนักกายภาพบำบัด อาการเบาลงจากเดิมมาก

 

 

เด็กน้อย 9 ขวบ มาหานักกายภาพบำบัด หลังมีอาการปวดตึงคอบ่า แม้แต่หมอยังไม่อยากจะเชื่อ

 

 

รักษาเสร็จ แจ้งผู้ปกครองให้น้องเล่นโทรศัพท์ให้น้อยลงกว่าเดิม (งดได้เลยจะดีมากครับ) เพิ่มกิจกรรมให้ไปเล่นกับเพื่อนแทนการเล่นโทรศัพท์เพื่อเป็นการบริหารกล้ามเนื้อไปในตัว กลับไปบริหารท่าที่นักกายภาพบำบัดแนะนำ แอบเห็นคนไข้ดูสีหน้านอยด์ๆ เมื่อนักกายภาพฯ บอกให้งดเล่นโทรศัพท์ พี่รักหรอกจึง 555555

ฝากโพสนี้ถึงผู้ปกติทุกท่านช่วยควบคุมเรื่อง #การใช้โทรศัพท์ของเด็กๆ ด้วยนะครับเพื่อหลีกเลี่ยงอาการปวดกล้ามเนื้อและสายตาในอนาคตด้วยนะครับ ด้วยรัก กภ.กิตติ ทิมรอด #หลังสวนคลินิกกายภาพบำบัด