ชูวิทย์ โพสต์ร่ายยาวสาวไส้คนรวย 7 กลยุทธ์หลุดคดี หนีไปก่อนผ่อนหนักเป็นหลุด

ชูวิทย์ โพสต์ร่ายยาวสาวไส้คนรวย 7 กลยุทธ์หลุดคดี หนีไปก่อนผ่อนหนักเป็นหลุด

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมาที่เพจเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้มีการโพสต์ข้อความระบุว่า. “หนีไปก่อน ผ่อนหนักเป็นหลุด” 7 กลยุทธ์ หลุดคดี สังคมตั้งข้อสงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไร? ผมจึงขอสาวไส้ให้ฟังว่า “คนรวย” เขาทำกันแบบไหน แต่ขอโทษนะครับ คนจน อด! 1. “ยื้อเวลาให้นานที่สุด” หาข้ออ้างเลื่อนเวลาไปเรื่อยๆ อย่าเพิ่งรีบไปพบตำรวจ เพราะเวลาเพิ่งมีเรื่อง กระแสยังแรง ต้องรอให้คลื่นลมสงบ จะอ้างอะไรก็อ้างไป ถ่วงเวลาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น ไม่สบาย ป่วยโรคอะไรก็ขุดขึ้นมาได้ ไม่ว่าเบาหวาน ความดัน ฉี่ไม่สุด หาใบรับรองแพทย์มาประกอบยืนยัน หรืออ้างธุรกิจยุ่งเหยิง ต้องไปจัดการงานสำคัญที่ต่างจังหวัดต่างประเทศก็ว่าไป เพราะมีตำแหน่งแห่งหนสำคัญ ไม่มีใครไปแทนได้

ชูวิทย์ โพสต์ร่ายยาวสาวไส้คนรวย 7 กลยุทธ์หลุดคดี หนีไปก่อนผ่อนหนักเป็นหลุด

 

2. “ยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด”อันนี้สำคัญ เพราะกฎหมายเปิดช่อง หวังจะให้ไปคานอำนาจตำรวจ ไว้ผดุงความยุติธรรมให้กับผู้ต้องสงสัย สามารถขอให้อัยการสั่งตำรวจสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นต่างๆ ที่ตำรวจไม่ได้สอบเอาไว้ได้แต่กลับกลายเป็นช่องโหว่ให้พวกรู้มากเอามาใช้ยื้อเวลา และเพื่อให้สอบในประเด็นที่เป็นประโยชน์กับตัวเองเท่านั้นอันนี้ช่วยขยายเวลาเพิ่มขึ้นอีกนาน เพราะตำรวจยังส่งฟ้องไม่ได้ ต้องไปสอบเพิ่มตามที่ผู้ต้องหาร้องเรียนไว้กับอัยการสูงสุดแม้ว่าบางคำร้องอัยการสูงสุดก็รับ บางคำร้องก็ไม่รับ ส่วนของบอสน่ะหรือ? ไม่ต้องห่วงครับ รับเรียบร้อยพุทโธ่! ก็กฎหมายเขาให้อำนาจเอาไว้ ขึ้นอยู่กับ "ดุลยพินิจ” รู้จักไหม?

3. หากไม่พอ มีเส้นสายในสภา ให้ไป "ร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการสภา”ไม่ว่ากรรมาธิการการตำรวจ ยุติธรรม ป.ป.ช. ขั้นนี้หากไม่มีเส้นสายอย่าไปหวัง หลายร้อยหลายพันเรื่องที่ชาวบ้านร้องมา แต่กรรมาธิการคัดเอาเฉพาะบางเรื่อง จะให้สอบทุกเรื่องได้อย่างไร ส่วนเรื่องของบอสเหรอครับ ก็รับไปสอบแน่นอน!นี่ก็เสียเวลาไปอีกโข เพราะกว่าจะเอาเข้าที่ประชุม กว่าจะสอบเสร็จ อ้างได้อีกว่าอยู่ระหว่างการประชุมของคณะกรรมาธิการ แม้ไม่มีอำนาจ แต่ก็เกรงใจ ยื้อเวลาไปได้ เขยิบไปอีก

ชูวิทย์ โพสต์ร่ายยาวสาวไส้คนรวย 7 กลยุทธ์หลุดคดี หนีไปก่อนผ่อนหนักเป็นหลุด

4. "บั่นทอนสำนวนให้อ่อน”สำนวนแข็ง ทำให้อ่อน สำนวนอ่อน ทำให้อ่อนมาก หลักฐานอะไรจะทำให้หาย พยานที่ไหนจะเพิ่มก็รีบยัดเข้ามาตอนนี้ให้เป็นประโยชน์กับตัว เพราะจะไปปรากฏอยู่ในสำนวนเรียกว่า กลยุทธ์ “เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่ไอ้ปื๊ด” ส่วนไหนไม่เป็นประโยชน์ตัดทิ้งได้ก็ตอนนี้แหละ เลื่อนเวลามาเนิ่นนานถึงตอนนี้ เป็นปีแล้ว กระแสเริ่มหาย คนเริ่มลืม พยานไหนแข็ง อ้างว่าตอนนั้นสมองมึนงง เครียด ขอให้การใหม่

5. "ยอมให้ออกหมายจับตามขั้นตอน"ท้ายสุด ออกหมายจับโชว์เสียหน่อย ตัวอยู่ไหนให้จับได้ที่นั่น แต่ที่ไหนได้ ก็แค่อย่าไปปรากฏตัวในที่สาธารณะ อย่าไปเดินห้าง อย่าไปกินข้าวให้คนเขาเห็นหรือออกไปหลบต่างประเทศเสียเลย ถือโอกาสพักร้อน บางคนปักหมุดที่ ปอยเปต เพราะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ หรือหากระดับบอสก็ยุโรปลอนดอน มีเครื่องบินส่วนตัว ไปได้ทั่วโลกยกเว้นเมืองไทย

ชูวิทย์ โพสต์ร่ายยาวสาวไส้คนรวย 7 กลยุทธ์หลุดคดี หนีไปก่อนผ่อนหนักเป็นหลุด

 

6. "ถอนหมายจับ"ถึงขั้นนี้ก็เข้าสู่กระบวนการขอถอนหมายจับ เป็นอันจบหมดเรื่อง ยินดีต้อนรับกลับบ้านได้เวลคั่มโฮมครับ!แต่สำคัญ ต้องป้องกันไว้ก่อน เผื่อใครร้องเรียน ให้รองฯ ที่ใกล้เกษียณเซ็น เผื่อเหลือเผื่อขาด จะได้อ้างว่าไม่รู้เรื่อง เพราะได้มอบหมายให้ไปแล้ว ผมยุ่ง ประชุมอยู่ปั๊ดโธ่ว! งานมันเยอะ จะให้ไปรู้ทุกเรื่องได้ไง !?พออะไรเข้าที่เข้าทาง ต่อให้ใครไปร้องก็ทำอะไรไม่ได้เสียแล้ว กระบวนการจบ ถอนหมายจับเรียบร้อย คดีปิด เป็นอันสิ้นสุด กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย

ชูวิทย์ โพสต์ร่ายยาวสาวไส้คนรวย 7 กลยุทธ์หลุดคดี หนีไปก่อนผ่อนหนักเป็นหลุด

7. “หากเรื่องแตกก่อน ยังมีก๊อกสอง”หากหลุดเข้าสู่กระบวนการศาล แต่เมื่อสำนวนปวกเปียก หลักฐานไม่มี สู้ยังไงก็ชนะขาดที่ศาลชั้นต้น จบตรงนี้ดีกว่าเยอะ ไม่ต้องไปเสี่ยงเซียมซี เดี๋ยวงานงอกเห็นไหมว่ากระบวนการมันยิ่งยาว ยิ่งฟอกง่าย อย่างบอสเลื่อนยื้อได้ถึง 8 ปี อะไรที่เคยชัดก็เริ่มเลือนลาง ทั้งความเร็ว ทั้งพยาน ล้วนอ่อนระโหยโรยแรง จางหายไปกับสายลมผงเข้าตา สังคมออกมาเอะอะโวยวายก็ทำอะไรไม่ได้ สายไปเสียแล้วที่ว่าไม่ตัดสิทธิ์ผู้เสียหายให้ไปฟ้องเองอย่างที่พูด มันทำไม่ได้หรอกครับ เพราะครอบครัวผู้เสียหายรับเงินเยียวยามาแล้ว พร้อมเซ็นว่าไม่ติดใจไปฟ้องทั้งทางแพ่งและอาญา ก่อนรับเงินต้องเซ็นกันรับจบตรงนี้ เลิกแล้วต่อกันอย่างนี้ถึงต้องหนีไปก่อน โอกาสรอดยังมี ออกหมายจับแล้ว ยังถอนหมายจับได้ ช่างเป็นที่กรุณาโดยแท้ ทั้งๆ ที่เจ้าตัวยังไม่ได้โผล่เยื้องกรายแวะขึ้นศาลแม้สักครั้งเดียว   ฟังแล้วอย่าได้แปลกใจไป “คนจนทำบ่ได้ดอกครับ”