หนุ่มใหญ่ จากเคยร่างท้วม ตัดสินใจพลิกชีวิตครั้งใหญ่ พร้อมเคล็ดลับ ลดความอ้วน ไม่ใช่ลดน้ำหนัก

กลายเป็นเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนได้เป็นอย่างดี หลังจากสมาชิกพันทิป พ่อพี่เกมน้องแก้ม ตั้งกระทู้หัวข้อ "ลดความอ้วนกันเถอะไม่ใช่ลดน้ำหนัก" โดยมีเนื้อหาระบุว่า...

หลายคนเริ่มลดความอ้วน โดยตั้งเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ แต่กลับวางกรอบเวลาที่ต้องการจะไปถึงเป้าหมายนั้น ด้วยระยะเวลาที่เป็นไปได้ในความเป็นจริงยากเหลือเกิน และสุดท้ายก็มักจบลงที่ความล้มเหลว  

หรือการเลือกทางเดินที่ผิดทาง ซึ่งแม้จะพาตัวเองไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ได้ แต่สุดท้ายก็ไม่พ้นที่จะพาความล้มเหลว ความพังกลับมาหาตัวเองอีกครั้ง หลังจากถึงเป้าหมายลวงตานั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะว่าระหว่างทางได้ทำลายสุขภาพ ทำลายมวลกล้ามเนื้อ เพียงเพื่อแลกให้ได้มาซึ่งตัวเลขบนตาชั่งที่หวังไว้เพียงอย่างเดียว

อย่าลืมนะ ว่าสิ่งสำคัญที่สุดของการลดความอ้วน ไม่ใช่เพียงการลดน้ำหนัก แต่การเปลี่ยนแปลงรูปร่าง การที่คุณแข็งแรงขึ้น การที่ร่างกายคุณมีสัดส่วนที่เปลี่ยนแปลงไป ในทางที่ทำให้คุณดูสมส่วนมากยิ่งขึ้น ทำให้คุณมีความมั่นใจ มีความรักในรูปร่างร่างกายที่ได้มา พวกนี้ล้วนเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ทั้งนั้น และทุกอย่างต้องใช้ระยะเวลา

ทำไมในทุกๆ ข้อมูลการลดความอ้วนที่ถูกต้องตามหลักสุขภาพถึงแนะนำกรอบน้ำหนักที่ควรจะลดลงอยู่ที่ 0.5 - 1 กิโลต่อสัปดาห์ นั่นก็เพราะมันเป็นค่าที่เหมาะสม ไม่มากหรือไม่น้อยจนเกินไป

การลดน้ำหนักลงอย่างรวดเร็ว โดยมากแล้วมักจะเป็นการสูญเสียมวลน้ำ และมวลกล้ามเนื้อ มากไปกว่าการสูญเสียมวลไขมัน การลดความอ้วนโดยคุมอาหารเพียงอย่างเดียว ก็มีโอกาสมากที่สิ่งที่เราลดลงไปได้ จะเป็นทั้งไขมันส่วนเกินและกล้ามเนื้อในเวลาเดียวกัน

การออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย แม้จะทำให้น้ำหนักตัวโดยรวมอาจจะขยับน้อย แทบไม่ขยับ หรือบางทีอาจจะขยับขึ้นด้วยซ้ำ แต่ก็เป็นการช่วยเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ เสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกาย  

ซึ่งสุดท้ายสิ่งเหล่านี้จะกลับมาช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานให้ร่างกายของเราในระยะยาว กล้ามเนื้อเหล่านี้จะช่วยให้เราประกอบกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันของเรา ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมทั่วๆไป หรือกิจกรรมการออกกำลังกายได้ดีขึ้น แอคทีฟมากขึ้น คล่องตัวมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดการใช้พลังงานที่มากขึ้นตามลำดับ

การลดความอ้วนด้วยการลดอาหาร ลดอาหารลงปริมาณมาก อาจจะทำให้น้ำหนักตัวลดลงได้เร็วในช่วงแรก แต่อย่างที่บอกข้างต้น น้ำหนักจำนวนมากที่ลดลงถ้าเป็นมวลน้ำ ก็เปล่าประโยชน์ ถ้าเป็นมวลกล้ามเนื้อ จะยิ่งนำความพังกลับมาให้เราในภายหลัง เพราะเมื่อร่างกายลดมวลกล้ามเนื้อลง เท่ากับว่าการเผาผลาญของเราก็ลดลงด้วยเช่นกัน    

เมื่อกินน้อย ร่างกายเลือกที่จะเก็บสารอาหารเท่าที่มีไปเป็นไขมัน เพื่อสำรองไว้ในภายหน้าเพราะไม่รู้ว่าจะมีอาหารเข้ามาอีกเมื่อไหร่และจะมีพอหรือไม่ มันกลัวเจ้าของร่างกายตาย มันก็จะเก็บพลังงานสำรองไว้ และเลือกที่จะไปพังเตาเผาพลังงาน ซึ่งมันมองว่าจะเป็นภาระให้ต้องใช้พลังงานมากขึ้นโดยไม่จำเป็น ทุกอย่างเมื่อรวมกันแล้ว จะทำให้ค่าอัตราเผาผลาญพลังงานพื้นฐานของเราลดลง โดยที่ไม่ได้นำเอาไขมันส่วนเกินที่เก็บไว้ มาใช้อย่างที่เราคิด  

เมื่อเลือกเดินทางผิด มีไม่กี่คนหรอกครับ ที่จะได้ผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพกลับมา โอกาสมันน้อยมากๆ เพียงแต่ว่าคุณจะพบกับความพังในที่สุดแล้ววันไหนแค่นั้นเอง

นอกจากนั้นยังมีในกรณีของคนที่อ้วนมากๆ สัดส่วนไซส์ใหญ่ ยิ่งไม่ควรลดน้ำหนักลงอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น เพราะสิ่งที่จะตามน้ำหนักที่ลดลงอย่างรวดเร็วไม่ทันคือผิวหนัง ยิ่งลดเร็วผิวหนังย้วยจะยิ่งเกิดขึ้นได้มาก และเมื่อเกิดแล้วแก้ไขลำบากครับ ทราบหรือไม่ว่าผิวหนังของคนเรามีวงรอบในการผลัดผิวเฉลี่ยประมาณ 28-30 วันนะครับ ไหนจะชั้นหนังแท้ที่อยู่ลำดับถัดไปของผิวหนังอีก พวกนี้ต้องการการเปลี่ยนแปลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปทั้งสิ้น ถ้ารีบมากอาจต้องเผื่อเงิน ไว้สำหรับทำศัลกรรมตกแต่ง  

ก็ให้เป็นข้อมูลไว้ยังไงก็ลองพิจารณาดูนะครับ ว่าจะไปทางไหนกันดี สุดท้ายคนที่เลือกก็คือตัวคุณเอง

โพสต์นี้ขอเป็นกำลังใจ ให้กับทุกท่านที่กำลังพยายามอยู่ ในเส้นทางที่ดีต่อสุขภาพ บนเส้นทางที่ถูกต้องตามหลักการโภชนาการและการออกกำลังกายทั้งหลาย ว่าอย่าพึ่งรีบท้อ คุณต้องให้เวลากับร่างกาย ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบ้าง ผลลัพธ์ดีๆ ไม่เกิดขึ้นในหลักไม่กี่วัน ในหลักไม่กี่สัปดาห์ มันต้องใช้เวลาเป็นที่แน่นอน ถ้าเรามั่นใจในวิธีการที่ทำอยู่ ว่ามันถูกต้องตามหลักสุขภาพแล้วละก็ ขอให้มั่นใจและแน่วแน่ครับ ทำมันให้จริงจัง สม่ำเสมอ และต่อเนื่อง แล้วรอดูผลลัพธ์ของความพยายาม