ลุงพล น้ำตาคลอ ตัดพ้อชีวิตก็เหมือนบทเพลง พร้อมฝากถึงน้องชมพู่

ลุงพลพูดเสียงสั่นน้ำตาคลอ หลังได้ประกันตัวออกมาสู่คดี ตัดพ้อชีวิตก็เหมือนบทเพลงที่ตนร้อง สิ่งที่อยากจะบอกน้องชมพู่ คือให้น้องไปอยู่ในภพที่ดีกว่า พร้อมขอกลับบ้านไปผูกแขนเรียกขวัญ ลูก - เมีย รออยู่

เมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 4 มิถุนายน 2564 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ทนายความ ของนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ผู้ต้องหาตามหมายจับใน คดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า... จังหวัดมุกดาหารมีคำสั่งให้ประกันตัวลุงพล วางหลักทรัพย์ 180,000 บาท ออกข้อกำหนดหากไม่ปฎิบัติตามจะถูกเพิกถอนการประกันตัว

ลุงพล น้ำตาคลอ ตัดพ้อชีวิตก็เหมือนบทเพลง พร้อมฝากถึงน้องชมพู่

นอกจากนี้ทาง ทนายตั้ม ยังเปิดเผยว่า ขอบคุณศาลจังหวัดมุกดาหาร ที่ให้ความเป็นธรรมกับลุงพล ตั้งแต่เช้าที่เรามายื่นเรื่องขอประกันตัว 
ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแม่ของน้องชมพู่ มาคัดค้าน ซึ่งทางฝ่ายผู้คัดค้านมีพยานมาด้วยกัน 3 ปาก คือแม่น้องชมพู่ พยานผู้ชายคนหนึ่ง 
และเจ้าพนักงานตำรวจ ซึ่งแม่น้องชมพู่ ยอมรับว่าไม่ได้สงสัยลุงพลตั้งแต่แรก และที่มาร้องคัดค้าน เพราะเป็นคำแนะนำของตำรวจ ซึ่งไม่มีการข่มขู่
กันมาก่อน

ลุงพล น้ำตาคลอ ตัดพ้อชีวิตก็เหมือนบทเพลง พร้อมฝากถึงน้องชมพู่

นอกจากนี้ทาง ทนายตั้ม ยังเปิดเผยว่า ขอบคุณศาลจังหวัดมุกดาหาร ที่ให้ความเป็นธรรมกับลุงพล ตั้งแต่เช้าที่เรามายื่นเรื่องขอประกันตัว ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแม่ของน้องชมพู่ มาคัดค้าน ซึ่งทางฝ่ายผู้คัดค้านมีพยานมาด้วยกัน 3 ปาก คือแม่น้องชมพู่ พยานผู้ชายคนหนึ่ง และเจ้าพนักงานตำรวจ ซึ่งแม่น้องชมพู่ ยอมรับว่าไม่ได้สงสัยลุงพลตั้งแต่แรก และที่มาร้องคัดค้าน เพราะเป็นคำแนะนำของตำรวจ ซึ่งไม่มีการข่มขู่กันมาก่อน

ลุงพล น้ำตาคลอ ตัดพ้อชีวิตก็เหมือนบทเพลง พร้อมฝากถึงน้องชมพู่

ขณะที่ ลุงพล กล่าว่าต้องขอบคุณศาลมที่ให้ความยุติธรรม ตั้งแต่วินาทีนี้จะสู้ทุกอย่างตามขบวนการ ลุงพลน้ำตาคลอ บอกว่าดีใจที่ได้ออกมาสู้คดี  ขณะที่ตนพร้อมทำตามเงื่อนไขได้แน่นอน เพราะไม่มีพฤติกรรมหลบหนีแน่นอน ส่วนเรื่องข่มขู่ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากที่ผ่านมา ยูทูบเบอร์ก็ตามถ่ายตนตลอดเวลา เว้นแต่เวลานอน

ลุงพล น้ำตาคลอ ตัดพ้อชีวิตก็เหมือนบทเพลง พร้อมฝากถึงน้องชมพู่

ลุงพลยังพูดเสียงสั่นน้ำตาคลอด้วยว่าความรู้สึกที่ผ่านมา มันก็เหมือนบทเพลงความจริงในใจที่ตนร้อง สิ่งที่อยากจะบอกชมพู่ คือให้น้องไปอยู่ในภพที่ดีกว่า นอกจากนี้ สิ่งแรกหลังจากนี้ ก็ตามธรรมเนียมต้องกลับไปผูกแขนตามผู้หลักผู้ใหญ่ส่วนป้าแต๋นพูดสั้นๆว่าลูกรออยู่ที่บ้าน

 

ขอบคุณข้อมูลจาก ThaiNews

ลุงพล น้ำตาคลอ ตัดพ้อชีวิตก็เหมือนบทเพลง พร้อมฝากถึงน้องชมพู่