"หมอธีระ"ลั่น หากมัวแต่เอาเลขต่ำๆมาใช้ แล้วทำให้หลงนึกภูมิใจ งานนี้สาหัส

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์ข้อความสถานการณ์โควิด-19  ระบุว่า

สถานการณ์ทั่วโลก 23 สิงหาคม 2564...

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 449,159 คน รวมแล้วตอนนี้ 212,552,705 คน ตายเพิ่มอีก 8,168 คน ยอดตายรวม 4,443,807 คน

5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุด คือ อิหร่าน สหราชอาณาจักร อเมริกา ญึ่ปุ่น และอินเดีย

อเมริกา ติดเชื้อเพิ่ม 30,298 คน รวม 38,544,626 คน ตายเพิ่ม 186 คน ยอดเสียชีวิตรวม 645,045 คน อัตราตาย 1.7%

อินเดีย ติดเพิ่ม 25,420 คน รวม 32,448,969 คน ตายเพิ่ม 385 คน ยอดเสียชีวิตรวม 434,784 คน อัตราตาย 1.3%

บราซิล ติดเพิ่ม 14,404 คน รวม 20,570,891 คน ตายเพิ่ม 284 คน ยอดเสียชีวิตรวม 574,527 คน อัตราตาย 2.8%

รัสเซีย ติดเพิ่ม 20,564 คน รวม 6,747,087 คน ตายเพิ่ม 762 คน ยอดเสียชีวิตรวม 176,044 คน อัตราตาย 2.6%

ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 17,300 คน ยอดรวม 6,619,611 คน ตายเพิ่ม 44 คน ยอดเสียชีวิตรวม 113,311 คน อัตราตาย 1.7%

อันดับ 6-10 เป็น สหราชอาณาจักร ตุรกี อาร์เจนติน่า โคลอมเบีย และสเปน ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่น

แถบอเมริกาใต้ ยุโรป แอฟริกา เอเชีย หลายต่อหลายประเทศติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น

หากรวมทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ พบว่ามีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 89.24 ของจำนวนติดเชื้อใหม่ทั้งหมดต่อวัน

แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลักร้อยถึงหลักพัน

แถบตะวันออกกลางส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักร้อยถึงหลักพัน ยกเว้นอิหร่านติดเพิ่มหลักหมื่นอย่างต่อเนื่อง

เวียดนามติดเพิ่มเกินหมื่นเหมือนฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และญี่ปุ่น

ส่วนเมียนมาร์ และเกาหลีใต้ ติดกันหลักพัน กัมพูชา ลาว และออสเตรเลีย ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน ไต้หวัน สิงคโปร์ และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ฮ่องกงติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

...มาดูสถานการณ์ของไทย

มีจำนวนติดเชื้อใหม่เมื่อวานนี้ สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก แต่หากรวมยอด ATK ด้วยอีก 2,039 ราย จะทำให้ไต่อันดับขึ้นเป็นอันดับ 6

จำนวนการเสียชีวิตเพิ่มเมื่อวานนี้ 233 คน สูงเป็นอันดับ 8

ยอดติดเชื้อสะสมตอนนี้ไทยอยู่อันดับที่ 33 คาดว่าสัปดาห์หน้าจะแซงโรมาเนีย และสวีเดนได้ แต่อาจมีลุ้นแซงปากีสถานขึ้นอันดับ 30 ได้เช่นกัน

หันไปดูลักษณะการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อใน UK (รูปแรก) จะพบว่า เค้ารายงานจำนวนเคสติดเชื้อ ไม่ว่าจะตรวจโดยวิธี RT-PCR หรือ Rapid (lateral flow) test เพื่อให้สะท้อนสถานการณ์จริง โดยคนที่ตรวจด้วย Rapid test แล้วเป็นผลบวก สามารถที่จะไปตรวจด้วย PCR ได้ภายใน 72 ชั่วโมง ถ้าเป็นผลลบก็จะไม่นับเป็นเคสได้

ในขณะที่รูปที่สองจาก US CDC มีแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน เวลานำ Rapid test มาใช้ในระดับชุมชน หากตรวจ Rapid antigen test แล้วเป็นผลบวก ก็ทำการแยกกักตัว โดยพิจารณาว่าติดเชื้อ

หลักในการจัดการสถานการณ์วิกฤติการระบาดรุนแรงแบบที่ไทยเราเผชิญอยู่นั้น จำเป็นจะต้องทำให้ประชาชนทราบสถานการณ์ที่ใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

Looking forward to the best but preparing for the worst...

ดังนั้น การตรวจแล้วได้ผลบวก ทั้งจาก RT-PCR และ Rapid test (ATK) นั้นควรรายงานทั้งสองตัว และรายงานตัวเลขแบบรวมกันด้วย เพื่อให้ทราบจำนวนรวมว่ามันสูงเพียงใด โดยนำตัวเลขนี้แหละที่จะมาพิจารณาวางแผนนโยบายและมาตรการในการควบคุมป้องกันโรค และวัคซีน

หากมัวแต่เอาเลขต่ำๆ มาใช้ แล้วทำให้หลงนึกภูมิใจว่า ตัวกรูทำมาเพอร์เฟกต์ ตรงตามเส้นโมเดลคณิตศาสตร์ที่ลากไว้ ป่าวประกาศว่าแนวโน้มลดลง ทั้งที่จริงแล้วสถานการณ์จริงมีคนติดเชื้อมากกว่าที่รายงานแบบทางการ เราก็จะมีโอกาสเจ็บสาหัสซ้ำซาก จนประชาชนส่วนใหญ่จะยืนระยะสู้ไม่ไหวอีกต่อไป

สำหรับประชาชนอย่างพวกเรา ขอให้ใช้ชีวิตด้วยหลักเหตุและผล มีสติ ใช้ความรู้ที่ถูกต้องเป็นแสงส่องทาง ประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต

ใส่หน้ากากนะครับ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า สำคัญมาก

ด้วยรักและห่วงใย