แม่ลูกแสบ ใช้รูปนางแบบหลอกเหยื่อเอาเงิน ผู้เสียหายสูญกว่า 2,690,000 ล้านบาท

แม่ลูกแสบ! ใช้รูปนางแบบหลอกเหยื่อเอาเงิน ผู้เสียหายสูญกว่า 2,690,000 ล้านบาท

จากกรณีที่เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความหลังตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพหลอกเอาเงิน ด้วยการสร้างเรื่องราวอันเป็นเท็จ ใช้ความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยี และโซเชียลมีเดีย ตัดต่อข้อความ,ไฟล์เสียงแอบอ้างเป็นบุคคลใกล้ชิดข้าราชการ และหน่วยงานเอกชน ปลอมแปลงเอกสารสำคัญ, ปลอมแปลงภาพ ข้อความ และข้อความเสียง เพื่อความสมจริงและน่าเชื่อถือ จนผู้เสียหายหลงเชื่อ ส่งมอบทรัพย์สินให้ไปหลายครั้ง รวมความเสียหายกว่า 2,690,000 บาท

แม่ลูกแสบ ใช้รูปนางแบบหลอกเหยื่อเอาเงิน

 

โปรโมชั่นลาซาด้า

 

ล่าสุด วันที่ 25 ส.ค.64 ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปอท. แถลงผลปฏิบัติการล่า “คริส” (The Scammer) จอมโจรโคตรปลอม ยุค 4G หลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 5 จุดที่ อ.หนองแค จ.สระบุรี และจับกุม น.ส.สุนันทินี สาเกทอง อายุ 33 ปี และ น.ส.รัชนี สกุลเอื้อ อายุ 63 ปี ผู้ต้องหาซึ่งเป็นแม่ลูกกัน โดยจับกุมใน ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น” พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง, แท็บเล็ต จำนวน 1 เครื่อง, คอมพิวเตอร์ จำนวน 1 เครื่อง

โดยคนร้ายทำเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำงานชัดเจน เริ่มแรกจะสร้างตัวตนปลอมในโซเชียลมีเดีย ใช้เฟซบุ๊กโดยนำภาพดาราชาวต่างชาติหน้าตาดีมาใช้เป็นรูปโปรไฟล์ สร้างเรื่องว่าตนประกอบอาชีพเป็นนางแบบมีฐานะร่ำรวย อาศัยอยู่ที่ต่างประเทศ และยังมีความสนิทสนมกับข้าราชการตำรวจระดับผู้บัญชาการ เป็นหลานของนักธุรกิจรถยนต์ ย่านสาทร รวมทั้งมีเพื่อนเป็นอัยการ และรู้จักกับทนายความชื่อดังอีกหลายคน จนทำให้มีผู้ติดตามทางโซเชียลมีเดียกว่า 20,000 คน แต่ความเป็นจริง เป็นผู้หญิงรูปร่างอ้วนท้วม ไม่เหมือนในรูป

ใช้รูปนางแบบหลอกเหยื่อเอาเงิน

หลังจากนั้นก็จะหาเหยื่อผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ออนไลน์ โดยเลือกเหยื่อจากครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะ หลังจากนั้นก็จะแชตพูดคุยกัน ก่อนยุยงปลุกปั่น สร้างเรื่องราวปลอมแปลงแชต ตัดต่อคลิปเสียง เพื่อหลอกลวงคนในครอบครัวของผู้เสียหายให้เกิดความบาดหมาง หวาดระแวงกันเอง อาทิ สร้างเรื่องว่า พ่อของผู้เสียหายนำรถไปจำนำในตลาดมืด แต่ตนเองสามารถไถ่ถอนรถคืนมาได้ พร้อมส่งภาพเล่มทะเบียนรถ และเอกสารการจำนำรถที่ทำปลอมขึ้น ส่งให้ผู้เสียหายดู พร้อมกับพูดจาโน้มน้าว จนผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินค่าไถ่รถมาเข้าบัญชีของผู้ต้องหาเป็นเงินกว่า 1,530,000 บาท

ซึ่งจากการตรวจสอบหลักฐานที่ยึดมาได้ พบว่าผู้ต้องหาตัดต่อรูปภาพของผู้บังคับบัญชาระดับสูง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการ และหน่วยงาน อื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก โดยมีรูปภาพของ พล.ต.ต.ท่านหนึ่ง ถูกตัดต่อขึ้นมาทำให้ดูเหมือนว่ารู้จักกันจริงๆ และยังพบการเปิดบัญชีแอปพลิเคชันไลน์ เฟซบุ๊ก และแอปพลิเคชันหาคู่ แชตกับเหยื่อทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมกว่า 100 คนอีกด้วย

 

โปรโมชั่นลาซาด้า