อดีตพ่อครัว ผันตัวเป็นพ่อค้า เปิดเพจ ขายผีเสื้อสต๊าฟ รับโทษอ่วม

นายนาวี ช้างภิรมย์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ 1362 เปิดเผยว่า ตามที่เจ้าหน้าที่พบ มีการโฆษณาหรือประกาศจำหน่ายซากสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง (แมลง) ชนิดผีเสื้อ ผ่านทางเพจเฟซบุ๊กชื่อ "หนอนผีเสื้อ" "หนอนผีเสื้อและดักแด้ผีเสื้อสวยงาม" และ "The Moths of Thailand ผีเสื้อกลางคืนในประเทศไทย" โดยใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ "Spin Storm (พเนจร)" และสืบทราบว่าจะนัดรับส่งสินค้าซากสัตว์ป่าบริเวณห้างดังย่านบางกะปิ กรุงเทพฯ

วันนี้ (17 ก.ย. 64) เวลา 11.00 น. คณะเจ้าหน้าที่ประกอบด้วย ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า (ชุดเหยี่ยวดง) ชุดปฏิบัติการพิเศษ 1362 สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช ตำรวจกก.1 บก.ปทส. ได้ร่วมกันวางแผนจับกุม โดยเมื่อคณะเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงสถานที่ดังกล่าว ได้พบชายทราบชื่อภายหลังคือนายศุภชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปีนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารพร้อมกล่องกระดาษ จำนวน 1 กล่อง และกำลังเอาผีเสื้อให้ผู้ซื้อดู คณะเจ้าหน้าที่จึงจับกุมผู้ต้องหา 

ตรวจพบซากสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง (แมลง) ผีเสื้อนางพญาพม่า (Stichopthalma louisa) จำนวน 3 ซาก ผีเสื้อนางพญากอดเฟรย์ (Stichopthalma godfreyi) จำนวน  1 ซาก ผีเสื้อหางดาบปีกโค้ง (Meandrusa payeni) จำนวน 1 ซาก ผีเสื้อไกเชอร์อิมพีเรียล  (Teinopalpus imperialis) จำนวน 1 ซาก ผีเสื้อหางยาวตาเคียวปีกลายตรง (Actias rhodopneuma) จำนวน 1 ซาก ผีเสื้อหางยาวตาเคียวปีกลายหยัก  (Actias maenas) จำนวน 1 ซาก (รวมจำนวน 6 ชนิด 8 ซาก) ราคาประเมินของกลางทั้งสิ้น จำนวน 17,400 บาท พร้อมอุปกรณ์การกระทำความผิด กล่องกระดาษ จำนวน 1 กล่อง

นายนายศุภชัยฯ ให้ถ้อยคำว่าตนเองประกอบอาชีพเป็นพ่อครัว (Chef) ประจำที่โรงแรมและร้านอาหารญี่ปุ่น แถวสุขุมวิท กรุงเทพมหานคร แต่เนื่องจากร้านอาหารที่ตนเองทำงานอยู่ปิดกิจการ ซึ่งซากผีเสื้อบรรจุกรอบ เป็นของที่ตนเองได้หาซื้อตามตลาดทั่วไป ในท้องที่ต่างจังหวัด มาสะสมด้วยความชอบส่วนตัว เนื่องจากมีสีสันสวยงาม และจะนำมาตกแต่งร้านอาหาร ซึ่งตนเองตั้งใจไว้ว่าจะเปิดเป็น  ร้านขายข้าวแกงแต่เนื่องจากอยู่ในช่วงกำลังจะเปิดร้าน จึงได้นำซากผีเสื้อ บรรจุกรอบ ไปประกาศขายทางเฟซบุ๊กดังกล่าว

คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันพิจารณาแล้ว เห็นว่าพฤติการณ์ดังกล่าว ของนายศุภชัย (ขอสงวนนามสกุล) กรณีครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ชนิดผีเสื้อ โดยไม่มีหลักฐานการได้มาของทางราชการ และนำมาประกาศหรือโฆษณาหรือนำเสนอทางสื่อโทรทัศน์ วิทยุ สิ่งพิมพ์ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือสื่อใดๆ เพื่อการค้า  มีความผิดดังนี้

มาตรา 17 ฐาน “มีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี” มีอัตราโทษตามมาตรา 92 จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  มาตรา 29 ฐาน “ค้าซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” มีอัตราโทษตามมาตรา 89 จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับประกอบมาตรา 112 และ มาตรา 116 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและ คุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 จึงควบคุมตัวนายนายศุภชัยฯ เป็นผู้ต้องหา พร้อมตรวจยึดซากสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าวข้าวต้น พร้อมอุปกรณ์การกระทำผิด นำส่งพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยซากสัตว์ป่าคุ้มครองของกลาง พร้อมอุปกรณ์การกระทำผิด ขออนุมัติพนักงานสอบสวนรับมอบ ส่งให้สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รับไปดูแลและเก็บรักษาต่อไป