ชาวบ้านริมฝั่งโขง รับเสียใจ บั้งไฟพญานาค ถูกด้อยค่าเป็นกระสุนจากหมูบ้าน

ชาวบ้านริมฝั่ง แม่น้ำโขง ยังคงปักใจเชื่อ บั้งไฟพญานาค มีจริง ยันเห็นมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า ตามหนองน้ำก็มีลูกไฟผุด เผยรู้สึกเสียใจที่มีคนบอกว่าเป็นการยิงปืน

จากกรณีโลกออนไลน์แชร์ภาพภาพลูกไฟ หรือ "บั้งไฟพญานาค" ตามความเชื่อชาวบ้านที่จะเกิดขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ซึ่งตรงกับวันที่ 21 ต.ค.2564 ที่ผ่านมา โดยทางด้านเพจเฟซบุ๊ก พิสูจน์บั้งไฟพญานาค ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ลูกไฟ ดังกล่าวเป็นการยิงปืนจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมเตรียมแฉรายชื่อหมู่บ้านที่เป็นคนลงมือ และได้มีการยื่นหนังสือไปถึงสถานทูตลาวให้ตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว

ชาวบ้านริมฝั่งโขง รับเสียใจ บั้งไฟพญานาค ถูกด้อยค่าเป็นกระสุนจากหมูบ้าน

ชาวบ้านริมฝั่งโขง รับเสียใจ บั้งไฟพญานาค ถูกด้อยค่าเป็นกระสุนจากหมูบ้าน

แต่อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงกับจุดที่มีปรากฏการณ์ บั้งไฟพญานาค เกิดขึ้นนับร้อยลูกในทุก ๆ ปี ระบุว่าเคยเห็นลูกไฟมาตั้งแต่ยังเด็กจนตอนนี้อายุกว่า 50 ปี ก็ยังเห็นอยู่ทุกปี ส่วนเรื่องที่บอกว่าเป็นการยิงปืนขึ้นฟ้า ก็อยากให้มีการพิสูจน์ให้เห็นผลที่แน่ชัดกันไปเลย

ชาวบ้านริมฝั่งโขง รับเสียใจ บั้งไฟพญานาค ถูกด้อยค่าเป็นกระสุนจากหมูบ้าน

ชาวบ้านรายอื่น ๆ ยังบอกด้วยว่า รู้สึกเสียใจที่ได้ยินว่า บั้งไฟพญานาค เป็นการยิงปืน ซึ่งภาพตามที่ออกข่าวมาไม่ใช่ลักษณะแบบเดียวกับที่ชาวบ้านเคยเห็น บั้งไฟพญานาคของจริงจะลอยขึ้นมาจากแม่น้ำโขง ตามหนองน้ำหรือปลักควายก็มี เชื่อว่าคนที่อยากพิสูจน์ไม่เข้าใจ และไม่เคยสัมผัสกับของจริงเหมือนชาวบ้านริมน้ำโขง โดยเห็นกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า เอีกทั้งยังมองว่าคนที่อยากพิสูจน์เป็นเหมือนการลบหลู่ด้วยเช่นกัน

ชาวบ้านริมฝั่งโขง รับเสียใจ บั้งไฟพญานาค ถูกด้อยค่าเป็นกระสุนจากหมูบ้าน