โควิด-19 รักษาหายแต่ไม่จบ ทำกระทบร่างกาย เสี่ยงเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด

หมอธีระ เผย ติดเชื้อโควิด-19 รักษาหายแล้ว แต่ยังไม่จบ ทำกระทบร่างกาย เสี่ยงเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ในอนาคต

วันที่ 13 ก.พ. 65 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยระบุว่า 13 กุมภาพันธ์ 2565 ทะลุ 410 ล้านแล้ว

 

โควิด-19 รักษาหายแต่ยังไม่จบ ทำกระทบร่างกาย เสี่ยงเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด


เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มสูงถึง 1,847,379 คน ตายเพิ่ม 7,584 คน รวมแล้วติดไปรวม 410,552,022 คน เสียชีวิตรวม 5,827,714 คน  , 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ รัสเซีย เยอรมัน บราซิล ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 87.51 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 77.28 ล่าสุด จำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นคิดเป็นร้อยละ 53.39 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 36.77 เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปครอง 5 ใน 10 อันดับแรก และ 10 ใน 20 อันดับแรกของโลก

อัพเดตความรู้โควิด-19 สุดสัปดาห์


หนึ่ง "โรค COVID-19 มีอัตราป่วยตายสูงกว่าไข้หวัดใหญ่" แม้ Omicron จะรุนแรงน้อยลงกว่าเดิม แต่อัตราป่วยตายของโควิด-19 ยังสูงกว่าไข้หวัดใหญ่ราว 1.6 เท่า หากดูจากข้อมูลในสหราชอาณาจักร ในขณะที่จำนวนการตายจากโควิด-19 ทั่วโลกนั้นก็สูงมากในแต่ละวัน หากเปรียบเทียบจำนวนการตายจากโควิด-19 กับจำนวนการตายจากไข้หวัดใหญ่ในบางประเทศที่มีการติดเชื้อจำนวนมา เช่น สหรัฐอเมริกา จะพบว่าสูงกว่าถึง 100 เท่าเลยทีเดียว ดังนั้นปัจจุบัน หากดูตามข้อมูลวิชาการจึงฟันธงว่า COVID-19 ไม่ใช่หวัดธรรมดา และไม่ใช่ไข้หวัดใหญ่ 


สอง "การติดเชื้อโรคโควิด-19 ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในอนาคต" การศึกษาในสหรัฐอเมริกาในกลุ่มประชากรขนาดใหญ่ ชี้ให้เห็นว่าหลังจากติดเชื้อโรคโควิด-19 และรักษาหายแล้ว คนที่ติดเชื้อนั้นก็ยังเสี่ยงต่อการเป็นปัญหาเรื่องโรคหัวใจและหลอดเลือด ราว 20 ชนิด ในช่วง 12 เดือนถัดมา อาทิ หัวใจขาดเลือด หัวใจล้มเหลว กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ภาวะหัวใจหยุดเต้น โรคหลอดเลือดสมอง ลิ่มเลือดอุดตันในปอดและหลอดเลือดต่างๆ เป็นต้น

 

โควิด-19 รักษาหายแต่ยังไม่จบ ทำกระทบร่างกาย เสี่ยงเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด

ทั้งนี้ พบว่าคนที่เคยติดเชื้อจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาโรคหลอดเลือดสมองสูงกว่าคนไม่ติดเชื้อ 52% และมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาหัวใจล้มเหลวมากกว่าคนไม่ติดเชื้อ 72% โดยเฉลี่ยแล้วในกลุ่มคนที่เคยติดเชื้อ 1,000 คน จะมี 45 คนที่มีปัญหาหัวใจและหลอดเลือดข้างต้นอย่างใดอย่างหนึ่งในช่วงเวลา 12 เดือนหลังการติดเชื้อ


ข้อมูลวิชาการข้างต้นชี้ให้เห็นว่า ประวัติการติดเชื้อโรคโควิด-19 มาก่อนนั้นมีแนวโน้มที่จะเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดในอนาคต และถือเป็นตัวอย่างหนึ่งของภาวะ Long COVID ที่จะเป็นผลกระทบระยะยาวต่อตัวคนที่ติดเชื้อ ครอบครัว และสังคม การป้องกันตัวอย่างเคร่งครัดจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ไม่ติดเชื้อย่อมดีที่สุด พรุ่งนี้วันวาเลนไทน์หรือวันแห่งความรัก ขอให้ระมัดระวังเรื่องการติดเชื้อแพร่เชื้อโควิด-19 หากออกไปฉลอง ไปกินดื่ม และอื่นๆ 

 

ขอบคุณ FB : Thira Woratanarat