สภาการพยาบาล แจงหญิงนำ ATM คนไข้ไปกดเงินไม่ใช่พยาบาล

สภาการพยาบาล แจงหญิงนำ ATM คนไข้ไปกดเงินไม่ใช่พยาบาล วอนสื่อแก้ไขข้อมูลเพื่อไม่ให้วิชาชีพการพยาบาลเสื่อมเสีย

สภาการพยาบาล แจงหญิงนำ ATM คนไข้ไปกดเงินไม่ใช่พยาบาล  สืบเนื่องจากที่เกิดกรณีผู้ป่วยที่พักรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี พบว่าบัตรเอทีเอ็มในกระเป๋าสตางค์หายไป และมีการถอนเงินออกจากบัญชี ซึ่งต่อมา นางวิไลวรรณ อายุ 35 ปี ลูกสาวผู้ป่วย เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.บางละมุง เพื่อดำเนินคดี

 

สภาการพยาบาล แจงหญิงนำ ATM คนไข้ไปกดเงินไม่ใช่พยาบาล วอนสื่อแก้ไขข้อมูลเพื่อไม่ให้วิชาชีพการพยาบาลเสื่อมเสีย

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

โดย นางวิไลวรรณ ระบุว่า คุณพ่อนอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลบางละมุง ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมา บัตรเอทีเอ็มของคุณพ่อถูกขโมยไปกดเงินสด จำนวน 4,500 บาท ทั้งที่ไม่สามารถลุกไปกดเงินเองได้ โดยนอนรักษาตัวอยู่ 14 วัน ซึ่งทางโรงพยาบาลงดเยี่ยมทุกกรณี กระทั่งคุณพ่อเสียชีวิต ทางโรงพยาบาลติดต่อให้ญาติมารับทรัพย์สินผู้เสียชีวิตกลับ 


แต่เมื่อตรวจสอบในกระเป๋าสตางค์ พบว่าบัตรเอทีเอ็มหายและถูกกดเงินออกไป ธนบัตรเก่าสะสมก็หายไปด้วย ทั้งนี้ ตำรวจติดตามภาพจากกล้องวงจรปิด ตู้ ATM ที่คนร้ายกดเงินตามเวลาที่แจ้งความ พบเป็นผู้หญิงผมสั้น จากนั้นสืบสวนจนรู้ตัวผู้กระทำคือ น.ส.ศิริพรรณ ลำยูง อายุ 29 ปี เป็นพยาบาลอัตราจ้างที่ประจำอยู่ตึกผู้ป่วย ทำงานมานานกว่า 10 ปีแล้ว และเป็นผู้ดูแลคุณพ่อของผู้เสียหาย


ด้าน น.ส.ศิริพรรณ ผู้ต้องหายอมรับว่า ขโมยบัตรเอทีเอ็มของผู้ป่วยไปกดเงินจริง ขโมยไปกดเงิน 2 ครั้ง เหตุผลที่ทำแบบนี้เพราะอารมณ์ชั่ววูบ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการเงินในครอบครัว เงินไม่พอใช้ มีรายจ่ายเยอะ จึงต้องหาทางออกด้วยวิธีนี้ และยอมรับว่าทำแบบนี้เป็นครั้งแรก พร้อมกราบขอโทษญาติผู้ป่วย

สภาการพยาบาล แจงหญิงนำ ATM คนไข้ไปกดเงินไม่ใช่พยาบาล วอนสื่อแก้ไขข้อมูลเพื่อไม่ให้วิชาชีพการพยาบาลเสื่อมเสีย

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

ทั้งนี้ ตำรวจแจ้งขอกล่าวหา ลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนและนำไปเบิกถอนเงินสด

 

ขณะที่ญาติของผู้เสียชีวิต เผยว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้บริหารของโรงพยาบาลบางละมุง ติดต่อมาแต่อย่างใด ญาติยังรอความรับผิดชอบจากโรงพยาบาลอยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้ รอง ผอ.โรงพยาบาล ได้แจ้งกับญาติว่าหากผู้ก่อเหตุเป็นคนของโรงพยาบาลจริง ยินดีที่จะรับผิดชอบทุกอย่างและออกมาขอโทษ จึงขอให้รีบออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย

สภาการพยาบาล แจงหญิงนำ ATM คนไข้ไปกดเงินไม่ใช่พยาบาล วอนสื่อแก้ไขข้อมูลเพื่อไม่ให้วิชาชีพการพยาบาลเสื่อมเสีย

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล


ล่าสุด เฟซบุ๊ก คณะกรรมการประชาสัมพันธ์ สภาการพยาบาล มีการออกมาชี้แจงว่า "จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวตามสื่อต่างๆ ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 ว่ามีพยาบาลนำบัตร เอทีเอ็ม ของผู้ป่วยไปกดเงินสด ระหว่างผู้ป่วยรักษาตัวในห้องไอซียูของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรีนั้น  สภาการพยาบาลได้ตรวจสอบแล้วพบว่า ผู้กระทำการดังกล่าวมิใช่ผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาล แต่เป็นพนักงานช่วยเหลือคนไข้ 


การที่สื่อสารมวลชนใช้การพาดหัวข่าวหรือให้ข้อมูลแก่สาธารณชนว่าผู้กระทำเป็นพยาบาล ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและความเสื่อมเสียต่อวิชาชีพการพยาบาล  จึงได้แจ้งต่อประธานสภาสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทยเพื่อขอให้สื่อแก้ข้อความ และให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่สาธารณชนต่อไป"

สภาการพยาบาล แจงหญิงนำ ATM คนไข้ไปกดเงินไม่ใช่พยาบาล วอนสื่อแก้ไขข้อมูลเพื่อไม่ให้วิชาชีพการพยาบาลเสื่อมเสีย