หมอเฉลิมชัย ไขข้อข้องใจติดโควิดซ้ำภายใน 1 เดือน เพราะสาเหตุนี้

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข ไขข้อข้องใจติดโควิดซ้ำรอบที่ 2 ภายใน 1 เดือน เป็นเพราะสาเหตุนี้

เกาะติดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันยังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จนสร้างความกังวลให้กับให้ประชาชนจำนวนมาก และสำหรับประเด็นที่คนให้ความสนใจตอนนี้คือการติดเชื้อโควิดซ้ำรอบ 2 ล่าสุด หมอเฉลิมชัย น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา ได้โพสต์ให้ความรู้ถึงประเด็นการติดเชื้อโควิดซ้ำ ผ่านทาง blockdit "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยระบุว่า

 

หมอเฉลิมชัย ไขข้อข้องใจติดโควิดซ้ำภายใน 1 เดือน เพราะสาเหตุนี้

ติดโควิดซ้ำครั้งที่ 2 ภายใน 1 เดือน เป็นไปได้หรือไม่ และเกิดจากสาเหตุใด จากกรณีนักการเมืองท่านหนึ่ง ได้แจ้งข่าวว่า ได้ติดโควิดเป็นครั้งที่ 2  โดยห่างจากครั้งแรกเพียง 1 เดือน ทำให้เกิดคำถามที่น่าสนใจว่า กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจากเหตุใด และมีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด


จากข้อมูลหรือข้อเท็จจริงเบื้องต้นที่เผยแพร่ต่อสาธารณะพบว่า หลังจากที่ติดเชื้อครั้งที่ 1 เมื่อต้นเดือนมีนาคม 2565 และรักษาตัวหายดีแล้ว โดยการแยกกักที่บ้าน (HI : Home Isolation) มีผลตรวจ ATK เป็นลบ หลังจากติดเชื้อ 10 วัน


ยังไม่ถึงหนึ่งเดือนดี ก็เกิดมีอาการไม่สบายอีก จึงได้ทำการตรวจด้วย ATK อีกครั้งหนึ่ง พบว่ามีผลเป็นบวก ด้วยความสงสัย จึงได้ตรวจยืนยันด้วย PCR พบว่าเป็นโควิดจริง โดยมีปริมาณไวรัสค่อนข้างสูงคือ Ct : Cycle threshold = 19 ในกรณีนี้ก็คงสรุปได้ว่า เป็นโควิดครั้งใหม่จริง ไม่ใช่เป็นซากเชื้อจากการติดครั้งก่อน เพราะปริมาณไวรัสที่ตรวจพบในครั้งที่ 2 นี้ค่อนข้างสูง

 

หมอเฉลิมชัย ไขข้อข้องใจติดโควิดซ้ำภายใน 1 เดือน เพราะสาเหตุนี้

ส่วนเหตุผลว่า ทำไมผู้ที่หายจากการติดเชื้อโควิดเพียง 1 เดือน จึงเกิดติดเชื้อซ้ำครั้งที่ 2 ได้ มีความเป็นไปได้จากเหตุผลดังนี้


- ถ้าการติดเชื้อครั้งที่ 1 มีปริมาณเชื้อน้อยและอาการไม่รุนแรง อาจจะมีระดับภูมิคุ้มกันที่ไม่สูงนัก เมื่อไปสัมผัสเสี่ยงกับผู้ที่มีปริมาณเชื้อไวรัสมาก จึงอาจเกิดติดเชื้อซ้ำครั้งที่ 2 ได้ ซึ่งโดยปกติแล้ว ระดับภูมิคุ้มกันควรจะสามารถป้องกันได้อย่างน้อย 3-6 เดือน


- ในการติดเชื้อครั้งที่ 2 อาจเกิดจากเป็นไวรัสคนละสายพันธุ์กัน เช่นติดเชื้อครั้งที่ 1 เป็นสายพันธุ์ย่อย BA.1 ของ Omicron (โอมิครอน) ต่อมาติดสายพันธุ์ย่อยที่สอง คือ BA.2 ซึ่งจะทำให้ภูมิคุ้มกันจากสายพันธุ์ย่อยที่หนึ่ง ทำหน้าที่ป้องกันได้ไม่เต็มที่นัก


ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม ก็ถือเป็นกรณีศึกษาว่า ผู้ที่เพิ่งหายป่วยจากการติดเชื้อ ไม่ควรประมาท เพราะมีโอกาสที่จะติดเชื้อซ้ำครั้งที่ 2 ได้ และอาจทิ้งระยะห่างน้อยกว่าที่เราเคยเชื่อกัน (3-6 เดือน)


การป้องกันตนเอง มีวินัย ไม่ประมาท ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาในสถานที่หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยง และหลีกเลี่ยงสถานที่แออัดหรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยง ตลอดจนฉีดวัคซีนเมื่อถึงกำหนดเวลา ยังคงเป็นมาตรการที่สำคัญและใช้ได้ผลดีในการรับมือกับไวรัสก่อโรคโควิด ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ใดก็ตาม


- ผู้ที่หายดีจากการติดเชื้อครั้งที่ 1 ถ้ามีระบบการทำงานของภูมิคุ้มกันที่ไม่ได้มีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ อาจเกิดภูมิคุ้มกันขึ้นหลังติดเชื้อครั้งที่ 1 ในระดับไม่มาก หรือลดลงอย่างรวดเร็ว ก็สามารถติดเชื้อซ้ำครั้งที่ 2 ได้

 

ขอบคุณ : ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย