เช็กอาการโอไมครอน ปวดหัว ปวดศีรษะแบบไหนเสี่ยงเป็นโควิด-19

สถานการณ์โอไมครอนที่กำลังระบาด ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเราติดโควิดแล้วหรือยัง ซึ่ง อาการปวดหัว ปวดศีรษะ ก็เป็นหนึ่งในอาการต้องสงสัย ดังนั้นต้องเช็กอาการปวดหัว ปวดศีรษะแบบไหนเสี่ยงเป็นโควิด-19

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะโควิดสายพันธุ์โอไมครอน หรือ โอมิครอน (Omicron) ทำให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จนสร้างความกังวลให้กับให้ประชาชน เพราะถึงแม้ว่าสายพันธุ์โอไมครอน ถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่แสดงอาการน้อย มีลักษณะคล้ายไข้หวัด แต่ก็สามารถแพร่กระจายเชื้อได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งอาการปวดหัว ปวดศีรษะ ถือว่าพบได้ค่อนข้างบ่อยในผู้ติดเชื้อ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ปวดหัวแบบไหนเป็นโควิด-19

 

เช็กอาการโอไมครอน ปวดหัว ปวดศีรษะแบบไหนเสี่ยงเป็นโควิด-19

ทั้งนี้ นพ.กีรติกร ว่องไววาณิชย์ อายุรแพทย์โรคสมองและระบบประสาท (โรคปวดศีรษะและใบหน้า) ศูนย์สมอง รพ.กรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า อาการปวดศีรษะเป็นอาการทางระบบประสาทที่เจอได้บ่อยในผู้ติดเชื้อโควิด โดยสามารถพบผู้ป่วยที่มีอาการได้มากถึง 30% ส่วนใหญ่จะไม่เคยมีประวัติโรคปวดศีรษะมาก่อน และอาการปวดมักจะพบภายใน 7 วันแรกหลังจากการติดเชื้อ โดยอาการปวดจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มีความรุนแรงของอาการปวดปานกลางถึงมาก และมักจะไม่ตอบสนองต่อยาแก้ปวด หรือมีอาการปวดซํ้าหลังจากยาแก้ปวดหมดฤทธิ์


ลักษณะการปวดจะเป็นการปวดแบบบีบรัดที่บริเวณขมับ หน้าผาก รอบกระบอกตาทั้ง 2 ข้าง หรือปวดทั่วทั้งศีรษะ ซึ่งอาจจะพบลักษณะการปวดแบบปวดตุ๊บๆ คล้ายกับเส้นเลือดเต้นได้ ซึ่งการโน้มศีรษะไปด้านหน้า การไอ การจามและการออกแรงจะทำให้อาการปวดศีรษะรุนแรงขึ้น


ที่สำคัญอาการปวดสามารถเกิดขึ้นได้นานถึง 2 สัปดาห์ สาเหตุของอาการปวดศีรษะสามารถสันนิษฐานได้ว่าอาจเกิดจากเชื้อไวรัสเข้าสู่สมองโดยตรง โดยผ่านปลายเส้นประสาทคู่ที่ 5 (trigeminal nerve) จากในโพรงจมูก ทำให้เกิดสัญญาณความปวดส่งมาที่ศีรษะ หรืออาจเกิดจากการที่เชื้อไวรัสไปกระตุ้นร่างกายให้สร้างสารการอักเสบ (inflammatory cytokine) ซึ่งมีผลโดยตรงกับระบบนำความปวดในสมอง ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะขึ้นมาได้

 

เช็กอาการโอไมครอน ปวดหัว ปวดศีรษะแบบไหนเสี่ยงเป็นโควิด-19

ปวดศีรษะตามปกติ-ปวดศีรษะเพราะติดโควิด-19 ต่างกันอย่างไร


อาการปวดศีรษะที่เกิดจากการได้รับเชื้อโควิด กับการปวดศีรษะด้วยสาเหตุอื่นได้ สามารถแยกการสังเกตอาการที่เกิดร่วมด้วยได้ดังนี้

- ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 นอกจากจะมีอาการปวดศีรษะแล้ว จะมีอาการเวียนศีรษะ มีไข้ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ไอ หอบเหนื่อย ปวดเมื่อย ถ่ายเหลว เจ็บขณะกลืน 

- อาจจะเกิดอาการแพ้แสง แพ้เสียงดัง คล้ายในผู้ที่ปวดศีรษะไมเกรน

- ในผู้ที่เป็นโรคปวดศีรษะอยู่แล้ว จะมีลักษณะของอาการปวดที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม 


ปวดศีรษะระหว่างติดโควิดควรทำอย่างไร


โดยปกติแล้วถ้าเกิดอาการปวดศีรษะจากการได้รับเชื้อโควิด-19 หรือจากการได้รับวัคซีนอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ สามารถรับประทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอลได้ 

ในกรณีที่รับประทานยาพาราเซตามอลแล้ว ยังไม่สามารถควบคุมอาการปวดได้ อาจต้องพิจารณาใช้ยาแก้ปวดบรรเทาอาการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (Non-Steroidal Anti-Inflammatory Drugs หรือ NSAIDs) 


สำหรับผู้ที่เป็นไมเกรนและมีอาการปวดศีรษะไมเกรนกำเริบหลังได้รับวัคซีน แนะนำให้รับประทานยาพาราเซตามอล ในกรณีที่ปวดศีรษะรุนแรงควรพิจารณาใช้ยาในกลุ่ม NSAIDs หรือ ยากลุ่ม triptans


ทั้งนี้ หลังจากการได้รับวัคซีนโควิด-19 ถ้าอาการปวดศีรษะรุนแรงขึ้นหรือไม่บรรเทาลงหลังจากการรับประทานยาแก้ปวด หรือมีอาการผิดปกติอย่างอื่นเกิดขึ้นร่วมด้วย ควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อหาสาเหตุของอาการปวดศีรษะที่อาจเป็นอันตราย รวมทั้งรักษาอาการปวดศีรษะอย่างเหมาะสม

 

ขอบคุณข้อมูล : นพ.กีรติกร ว่องไววาณิชย์ อายุรแพทย์โรคสมองและระบบประสาท (โรคปวดศีรษะและใบหน้า) ศูนย์สมอง รพ.กรุงเทพ