รวบหนุ่มแสบอ้างเป็นทีมงาน "บิ๊กป้อม" ช่วยพาเข้าทำงาน ฟันไป 3 แสน

รวบหนุ่มแสบอ้างเป็นทีมงาน "บิ๊กป้อม" ตุ๋นช่วยวิ่งเต้นพาเข้าทำงานตำแหน่งเลขานุการหน้าห้องรัฐมนตรี 2 ตำแหน่ง ฟันไป 3 แสน

เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. สั่งการ  พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ต.พิชญา ทวิชศรี สว.กก.3 บก.ป. นำกำลังจับกุมตัว นายพงษ์ระวี อายุ 35 ปี ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ข้อหา "ทุจริตโดยการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ" และ หมายจับ ศาลอาญามีนบุรี ข้อหา "ฉ้อโกง" โดยจับกุมตัวได้ที่ บ้านพัก ภายในหมู่บ้านพฤกษาวิลล์ 77 พุทธมณฑลสาย 4 ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม

รวบหนุ่มแสบอ้างเป็นทีมงาน "บิ๊กป้อม" ช่วยพาเข้าทำงาน ฟันไป 3 แสน

 

รวบหนุ่มแสบอ้างเป็นทีมงาน "บิ๊กป้อม" ช่วยพาเข้าทำงาน ฟันไป 3 แสน

 

สืบเนื่องจากก่อนหน้าได้มีผู้เสียหาย ประมาณ 2-3 คน เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับทาง กก.3 บก.ป. หลังถูกนายพงษ์ระวี ผู้ต้องหารายนี้อ้างตัวว่า เป็นหนึ่งในคณะทำงานของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ทำงานอยู่ในทำเนียบรัฐบาล สามารถพาเข้าทำงานในตำแหน่งเลขานุการหน้าห้องรัฐมนตรี 2 ตำแหน่ง แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องจ่ายเงินค่ากระเช้า ค่าขอบคุณ และค่าดำเนินการต่างๆเป็นเงินคนละแสนกว่าบาท

ประกอบกับบัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัวของ นายพงษ์ระวี เคยมีการโพสต์ภาพ นั่งอยู่ในห้องทำงานของ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมถึงโพสต์ภาพสวมใส่เสื้อคล้ายตำรวจ จึงหลงเชื่อยอมจ่ายเงินให้กับผู้ต้องหารายนี้รวมเป็นเงินเกือบ 3 แสนบาท แต่เมื่อถึงกำหนดกลับไม่สามารถเข้าทำงานได้ตามที่กล่าวอ้างจึงรู้ตัวว่าถูกหลอก

รวบหนุ่มแสบอ้างเป็นทีมงาน "บิ๊กป้อม" ช่วยพาเข้าทำงาน ฟันไป 3 แสน

 

อย่างไรก็ตามหลังเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทราบเรื่องจึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแสข้อเท็จจริงประมาณ 1 เดือน ก่อนทราบว่า นายพงษ์ระวี อย่างละเอียด มีหมายจับในคดี ฉ้อโกง ค้างเก่าพื้นที่ สน.หัวหมาก และ สน.บางชัน ติดตัว 2 คดี จึงนำกำลังตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว พร้อมกับประสานผู้เสียหายเข้าชี้ตัวเพื่อยืนยันตัวบุคคล 

 

รวบหนุ่มแสบอ้างเป็นทีมงาน "บิ๊กป้อม" ช่วยพาเข้าทำงาน ฟันไป 3 แสน

 

ทั้งนี้จากการสอบสวน นายพงษ์ระวี ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาตามหมายจับ แต่ยอมรับว่ามีการกล่างอ้างตัวสนิทสนมกับผู้ใหญ่เพื่อหลอกลวงผู้เสียหายทั้ง 3 คนจริง พร้อมยอมรับว่าตนเองไม่ได้รู้จักกับผู้ใหญ่ทางการเมืองเป็นการส่วนตัวแต่อย่างใด เพียงแต่มีเพื่อนทำงานอยู่ในคณะทำงานเพียงเท่านั้น จึงสวมรอยสร้างโปรไฟล์ให้ดูน่าเชื่อถือ เบื้องต้นจึงนำตัวส่ง สน.บางชัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป