คดีพลิก ทนาย โชว์หลักฐาน ยัน ไฮโซทะเล ถูกใส่ร้าย พร้อมเล่าความจริง

จากกรณีนักธุรกิจชาวสิงคโปร์เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยกล่าวว่าเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ตนถูกนายเพชรนัดคุยเรื่องหนี้สินที่เหลือ 3 ล้าน หลังยืมไป 7 ล้าน ซึ่งวันนั้นมีนายธกฤตและพวกอีก 2 คน แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่อยู่ด้วย มีการพูดคุยกันถึงตี 4 ของอีกวัน ก่อนที่ตนจะถูกคุมตัวออกจากห้อง และถูกอีกฝ่ายเอารถและทรัพย์สินหลบหนีไป

ผู้เสียหาย ชี้ว่าตนเองรู้จักกับนายเพชรประมาณ 5 ปี ได้ไปเที่ยวในกลุ่มไฮโซด้วยกัน ก่อนจะมารู้จักกับนายธกฤต พร้อมกับอ้างว่าทั้งคู่ติดพนันจนเสียไปกว่า 10 ล้าน และมีการมาขอยืมเงินตนไปใช้หนี้

 

ขณะที่ นายเพชร ให้การปฏิเสธเรื่องเป็นหนี้ แต่ยอมรับว่าวันเกิดเหตุเป็นผู้นัดหมายให้นักธุรกิจชาวสิงคโปร์เข้ามาพบกับนายธฤตจริง แต่ตนเองกลับออกจากร้านอาหารไปก่อน         

ด้านทนายความของนายธกฤต กล่าวปฏิเสธเช่นกัน ว่าลูกความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล้นทรัพย์ แต่ยอมรับว่านายธกฤตรู้จักกับผู้นักธุรกิจชาวสิงคโปร์ และอยู่ในวันเกิดเหตุจริง ซึ่งนายธกฤตไม่ได้เป็นหนี้ แต่นักธุรกิจต่างหากที่เป็นหนี้นายธกฤต 1 ล้านบาท มีหลักฐานการกู้ยืมถูกต้อง ยืนยันนายธกฤตไม่มีแรงจูงใจในการก่อเหตุ เพราะทำธุรกิจที่มีรายได้มากพอที่จะต้องไปปล้นเงินใคร

 

 

ทั้งนี้ ในส่วนของรถยนต์หรู ยืนยันว่า ไม่ได้อยู่กับนายธฤต และสงสัยว่ารถคันดังกล่าวอาจไม่ใช่ของคู่กรณี คาดว่าน่าจะเป็นรถที่ยืมคนอื่นมาอีกทอด ตอนนี้กำลังพิจารณาแจ้งความกลับ เนื่องจากนักธุรกิจคนดังกล่าวพูดความจริงไม่หมด เพราะทั้ง 3 คน มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงร่วมกันในการทำธุรกิจสีเทาบางอย่างอยู่

 

         

เบื้องต้น ได้เตรียมหลักทรัพย์เพื่อยื่นขอประกันตัวนายธกฤตในชั้นพนักงานสอบสวนแล้ว โดยอยู่ระหว่างการหารือกับพนักงานสอบสวน ซึ่งตอนนี้นายธฤตมีอาการค่อนข้างเครียด เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการถูกใส่ร้าย

 

 

 

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://www.thainewsonline.co/