นายกฯ ห่วงใยคนไทย ชวน 7 กลุ่มเสี่ยง ฉีดวัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่ฟรี ถึง 31 ส.ค. 67

นายกฯ ห่วงใยสุขภาพคนไทย ชวน 7 กลุ่มเสี่ยงใช้สิทธิการรักษา สปสช. ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ฟรี ถึง 31 สิงหาคม 67 หรือ จนกว่าวัคซีนจะหมด

นายกฯ ห่วงใยคนไทย ชวน 7 กลุ่มเสี่ยง ฉีดวัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่ฟรี ถึง 31 ส.ค. 67

นายกฯ ห่วงใยคนไทย ชวน 7 กลุ่มเสี่ยง ฉีดวัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่ฟรี ถึง 31 ส.ค. 67

นายกฯ ห่วงใยคนไทย ชวน 7 กลุ่มเสี่ยง ฉีดวัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่ฟรี ถึง 31 ส.ค. 67

 

ทางด้าน นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีห่วงใยสุขภาพของพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่มักพบการแพร่ระบาดของไวรัสไข้หวัดใหญ่ ส่งผลให้เกิดอาการป่วย มีไข้ จนถึงภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ทั้งนี้ ในปี 2567 รัฐบาล โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินการสิทธิประโยชน์บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง เพื่อป้องกันอาการเจ็บป่วยรุนแรงหรือเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนหากติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ สามารถเข้ารับบริการได้ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2567 หรือจนกว่าวัคซีนจะหมด

 

นายกฯ ห่วงใยคนไทย ชวน 7 กลุ่มเสี่ยง ฉีดวัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่ฟรี ถึง 31 ส.ค. 67

 

 

 

 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขั้นตอนการรับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ประชาชนสามารถใช้สิทธิการรักษาของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และขอติดต่อเข้ารับบริการได้ที่สถานบริการสาธารณสุขของรัฐ และสถานพยาบาลเอกชนใกล้บ้านที่เข้าร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ทุกแห่ง อนึ่ง ประชาชนสามารถติดต่อเพื่อนัดหมายกับหน่วยบริการล่วงหน้า เพื่อความสะดวกในการเลือกวันเวลาที่เข้ารับบริการที่แน่นอน หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน กรมควบคุมโรค โทร. 1422  

 

สำหรับกลุ่มเป้าหมาย 7 กลุ่มเสี่ยง ประกอบด้วย

1.หญิงตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป
2.ผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป
3.เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี
4.ผู้พิการทางสมองที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
5.ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ได้แก่ หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ปอดอุดกั้นเรื้อรัง เบาหวาน และผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ที่ระหว่างการรักษาด้วยเคมีบำบัด
6.ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย  ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมถึงผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการ
7.ผู้ที่มีน้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม หรือดัชนีมวลกายมากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร


“นายกรัฐมนตรีห่วงใยประชาชน ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาการทำงานดูแลประชาชนในช่วงเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรค และควบคุมการทำงานเพื่อพัฒนาการรับสิทธิรักษาโรคในระบบสุขภาพของประเทศ เพื่อดูแล ป้องกัน ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง กลุ่มอ่อนแอ ที่มีโอกาสรับเชื้อโรคมากกว่ากลุ่มปกติ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเชิญชวนประชาชนติดตามการประกาศประชาสัมพันธ์ของรัฐในทุกช่วงเวลาเพื่อป้องกันตนเองจากโรคระบาด ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงเสมอ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรงและเสียชีวิตจากโรคภัย” นายชัยกล่าว