รังสิตประกาศด่วน ทุกบ้านรีบยกของขึ้นที่สูง มวลน้ำกำลังมาในไม่ช้า

รังสิตประกาศด่วน ทุกครัวเรือนรีบยกของขึ้นที่สูง มวลน้ำกำลังมาในไม่ช้า เนื่องจากจะมีการผันน้ำจากเขื่อนป่าสัก

วันที่ 8 ตุลาคม 2565 เทศบาลนครรังสิต ประกาศด่วน เตือนประชาชนทุกครัวเรือนยกของขึ้นที่สูง เนื่องจากจะมีการผันน้ำจากเขื่อนป่าสัก มวลน้ำกำลังมาในไม่ช้า โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยติดอยู่กับคลองและริมฝั่งแม่น้ำ ดังนี้

เทศบาลนครรังสิต ประกาศ ข่าวด่วน ด้วยได้รับแจ้งจากกรมชลประทานว่า จะมีการผันน้ำจากเขื่อนป่าสักฯ ซึ่งมวลน้ำจะเข้าสู่พื้นที่เทศบาลในไม่ช้านี้ เทศบาลนครรังสิตจึงขอให้ประชาชนทุกท่าน ทุกครัวเรือนเตรียมขนของขึ้นที่สูง โดยเฉพาะที่พักอาศัยติดแม่น้ำ คลอง และติดตามสถานการณ์จากข่าวสารของเทศบาลอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ด้วยความห่วงใย ร้อยตำรวจเอก ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิต

 

รังสิตประกาศด่วน ทุกครัวเรือนรีบยกของขึ้นที่สูง มวลน้ำกำลังมาในไม่ช้า

และก่อนหน้านี้ ผู้ว่าฯปทุมออกประกาศด่วน เตรียมรับมือ แม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น ในช่วง วันที่ 8 – 13 ตุลาคม 2565 รายละเอียดระบุ สืบเนื่องจากที่ ปภ.แจ้ง 7 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา และ กทม. ตรียมรับมือ แม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น ในช่วงวันที่ 8 – 13 ตุลาคม 2565

โดย กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้ง 7 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ รวมถึงกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น ในช่วงวันที่ 8 – 13 ตุลาคม 2565 พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ริมน้ำนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราวในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ เตรียมพร้อมรับมือระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ เพื่อเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง

 

รังสิตประกาศด่วน ทุกครัวเรือนรีบยกของขึ้นที่สูง มวลน้ำกำลังมาในไม่ช้า

 

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทยได้รับการประสานจากกรมชลประทานและกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ แจ้งว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยามีน้ำหลากจากทางตอนเหนือไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น โดยมีปริมาณน้ำไหลผ่านบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ (C.2) อยู่ในเกณฑ์ 3,077 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งปริมาณน้ำดังกล่าวจะไหลมารวมกับแม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขาไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยา ปัจจุบันระดับน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ +17.64 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับเก็บกัก 1.14 (+16.50 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง) เพื่อรักษาเสถียรภาพความมั่นคงของบานระบายน้ำและตัวเขื่อนเจ้าพระยา กรมชลประทานจำเป็นต้องควบคุมระดับน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในเกณฑ์ +17.60 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอยู่ในอัตรามากกว่า 2,900 – 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ตั้งแต่วันที่ 7ตุลาคม 2565 ประกอบกับกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) ได้คาดการณ์ระดับน้ำทะเลหนุน ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณกองบัญชาการกองทัพเรือ กรุงเทพมหานคร ป้อมพระจุลจอมเกล้าฯ จังหวัดสมุทรปราการ และพื้นที่ใกล้เคียง จะเพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติ โดยระดับน้ำจะมีความสูงประมาณ 1.90 – 2.20 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง จึงขอให้เฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ในช่วงวันที่ 8 – 13 ตุลาคม 2565

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้แจ้ง 7 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ รวมถึงกรุงเทพมหานคร จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ริมน้ำนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราวในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำตามริมแม่น้ำติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด รวมถึงแจ้งเตือนผู้ประกอบกิจการในแม่น้ำ อาทิ งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งแพร้านอาหาร ท่าเทียบเรือโดยสารสาธารณะ ตลอดจนแจ้งจังหวัดประสานท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำ จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ เพื่อเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง

 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline