ผู้พันเบิร์ด เล่าเหตุผล ในหลวงทรงเปลี่ยนสนามม้านางเลิ้งเป็นสวนสาธารณะ

ผู้พันเบิร์ด เล่าเหตุผล ในหลวงทรงเปลี่ยนสนามม้านางเลิ้งเป็นสวนสาธารณะ สืบเนื่องด้วยวันที่ 13 ตุลาคม 2565 เวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา 

และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังอุทยานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ วาสนา นาน่วม ได้รายงานถึงบทสัมภาษณ์ของ พ.อ.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกลาโหม ว่า ในหลวงมีพระดำริอย่างไรที่จะปรับปรุงสนามม้านางเลิ้งเก่า และพัฒนาเป็นสวนสาธารณะใหญ่ ถือเป็นปอดแห่งใหม่ของคนกรุง รวมถึงเพิ่มที่จอดรถให้โรงพยาบาลรามาธิบดี

โดยแต่เดิมนั้น สนามม้านางเลิ้ง ถูกสร้างขึ้นมาสมัยรัชกาลที่ 6 ตอนนั้นบริบทสังคมกับการแข่งม้าถือเป็นเรื่องใหม่ มีพันธุ์ม้าจากต่างประเทศเข้ามาเยอะมาก ดังนั้น รัชกาลที่ 6 จึงสร้างสนามม้านี้เพื่อเป็นการพัฒนาพันธุ์ม้าในประเทศไทยในภาพรวม หมายถึง การแข่งขันกีฬา การค้าขายอาหาร การพักผ่อน และธุรกิจกีฬา

เมื่อวันเวลาผ่านไป บริบทสังคมเปลี่ยน วัตถุประสงค์เหล่านี้ก็เปลี่ยนและลดลง เริ่มมีการพนันเข้ามาเกี่ยวข้อง มีผู้มีอิทธิพลในการแข่งขัน สามารถกำหนดผลแพ้ชนะได้ ที่สำคัญ การปรับปรุงครั้งนี้ ในหลวงทรงพระดำริว่า 

 

"การพนันมีผลเสียเกิดขึ้นในวงกว้างและตามมาด้วยปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด สุดท้ายก็กระทบกับครอบครัว ครอบครัวแตกแยก นี่จึงเป็นสาเหตุของการปรับปรุงครั้งนี้ และผมคิดต่อว่า การขอที่ดินคืน ก็ขอคืนในขณะที่หมดสัญญาเช่าไปแล้ว ค่าเช่าก็ไม่แพง เดือนละ 1 หมื่นบาท แต่กลับเอามาหากินกับการพนันจนมีเงินหมุนเวียนสัปดาห์ละหลายร้อยล้านบาท"

อีกข้อสังเกตหนึ่งคือ การที่สัญญาเช่าหมดไปนานแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการต่อสัญญา แสดงให้เห็นถึงความไม่ชัดเจนของสิทธิครอบครองที่ดินในเรื่องการฮุบเอาที่ดินทรัพย์สินไปเป็นของกลุ่มคนได้ในอนาคต และปัจจุบันก็ยังมีหลายพื้นที่ที่ไม่ชัดเจน มีกลุ่มคนเข้ามาใช้ประโยชน์ที่ดิน ทรัพย์สิน หาประโยชน์เข้าตัวเองอยู่ แค่ปล่อยเช่าช่วงต่อก็ได้กำไรหลายเท่าแล้ว ซึ่งการทำความชัดเจนในครั้งนี้ ก็เพื่อให้มีเจ้าของที่ดินถูกต้อง เสียภาษีถูกต้อง ไม่คลุมเครือ

 

และแน่นอนว่า เมื่อแรกที่พระองค์ปรับปรุงสนามม้า ก็มีข่าวบิดเบือนออกมาทันทีว่า พระองค์จะเอาไปสร้างวัง จนมาถึงวันนี้ ความจริงก็ปรากฏว่าไม่จริง พวกที่บิดเบือนก็ไม่ได้ออกมายอมรับ ปล่อยข่าวปลอมเป็นประจำจากคนเดิมๆ แต่ก็ยังมีคนเชื่อ จนเกิดความเข้าใจผิดต่อสถาบัน

นั่นทำให้ผมนึกถึงการบิดเบือน เรื่องภาวะเรือนกระจก ไม่มีอยู่จริง แต่ก็ยังมีคนเชื่อและเชียร์อยู่ คนบิดเบือนเหล่านี้ หวังผลทางการเมืองและอำนาจเงินทอง เข้ามาสู่ตนเองทั้งนั้น

ส่วนการบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 9 ถือเป็นประวัติศาสตร์ที่ต้องบันทึกไว้ของชาติไทย และมีการจดหมายเหตุไว้ เช่นเดียวกับตอนสร้างพระบรมรูปทรงม้า ตอนนั้นผมเกิดไม่ทัน แต่ในพระราชพิธีครั้งนี้ก็จะเหมือนกัน

นับเป็นพระมหากรุณาที่คุณ เป็นล้นพ้นต่อปวงชนชาวไทย ที่สถาบันฯ ไม่เคยละทิ้งหรือแบ่งแยกประชาชนเลย พระองค์ให้ความสำคัญ กับเรื่องเล็กน้อย ที่ส่งผลกว้างใหญ่ เช่น สิ่งแวดล้อม การกระจายอำนาจจากส่วนกลาง สถาบันครอบครัว การศึกษา การสาธารณสุข

อย่างไรก็ตาม วันนี้เราได้เห็นหลายสิ่งพัฒนาขึ้นจากการเติมเต็มของสถาบันฯ ต่อไปภายภาคหน้าแน่นอนว่า เราจะยังได้เห็นอีกหลายสิ่งที่พัฒนาสถาพร ต่อไป

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline