กระบะตู้ทึบหัวร้อน ไหว้สวยขอโทษ ซิ่งหาเรื่องรถป้ายแดง เพิ่งรู้เป็น รองผกก.

กระบะตู้ทึบหัวร้อน โร่ขอโทษ รองผู้กำกับสืบสวน สภ.พระประแดง หลังขับปาดหน้า เบรคใส่กะทันหัน อารมณ์เดือดโวยเรื่องเพราะต้องรีบไป ทำงาน


กรณีคลิป กระบะตู้ทึบหัวร้อน ฉุนรถป้ายแดงขับช้า แซงปาดหน้าเบรคใส่กะทันหัน พร้อมลงไปโวยวายหาเรื่อง เหตุเกิดบริเวณในซอยสุขสวัสดิ์39  สมุทรปราการ  เหตุเกิดเมื่อเช้าวันที่ 22ต.ค.65  ต่อมาทราบว่า คนขับมาสด้าป้ายแดงเป็นตำรวจ ตำแหน่งรอง.ผกก.สืบสวน สภ.พระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ โดยหลังเกิดเหตุ ทางรองผู้กำกับ ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.พระประแดง แล้ว

กระบะตู้ทึบหัวร้อน ไหว้สวยขอโทษ ซิ่งหาเรื่องรถป้ายแดง เพิ่งรู้เป็น รองผกก.
   โดยคนขับรถมาสด้าป้ายแดง พ.ต.ท.ธนกฤต รวยอารี รอง ผกก.สส.สภ.พระประแดง ช่วงที่เกิดเหตุได้ขับกลับมาจากการทำบุญปล่อยปลา ซึ่งก็ขับมาตามปกติในซอยสุขสวัสดิ์39  เเต่จู่ๆก็มีกระบะตู้ทึบแซงขวาขึ้นมาด้วยความเร็วจี้ท้ายมาตลอด พยายามจะหาจังหวะแซง ก่อนจะเร่งแซงปาดหน้า เบรคใส่ตรงช่วงก่อนขึ้นสะพาน ทำให้รอง.ผกก ต้องเบรคกะทันหัน เเละบีบแตรยาวๆใส่ จากนั้นคนขับกระบะตู้ทึบ ก็ลงหัวร้อนลงรถมาโวยวายหาเรื่อง 

กระบะตู้ทึบหัวร้อน ไหว้สวยขอโทษ ซิ่งหาเรื่องรถป้ายแดง เพิ่งรู้เป็น รองผกก.

  อย่างไรก็ตามไม่มีเหตุการณ์บานปลาย ทางรองผกก. พ.ต.ท.ธนกฤต ก็ได้ใจเย็นยืนฟัง หนุ่มขับกระบะตู้ทึบโวยวายหาเรื่องพร้อมกับมีการใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสม

กระบะตู้ทึบหัวร้อน ไหว้สวยขอโทษ ซิ่งหาเรื่องรถป้ายแดง เพิ่งรู้เป็น รองผกก.


  คืบหน้าล่าสุดเมื่อกลางดึกวันที่ 23ต.ค.65 หนุ่มหัวร้อนวัย27ปี คนขับกระบะตู้ทึบ ได้มาเข้าพบเพื่อขอโทษ พ.ต.ท.ธนกฤต รวยอารี รอง ผกก.สืบสวน สภ.พระประแดง  โดยทาง พ.ต.ท.ธนกฤต เปิดเผยว่า โดยส่วนตัวตนเองไม่ติดใจเอาความ หรือ เอาเรื่องแต่อย่างใด ถือว่าเอาบุญ เพราะเพิ่งผ่านวันเกิดมา แต่ก็ต้องดำเนินคดีของกฎหมายจราจร ข้อหาแซงรถในพื้นที่คับขัน ดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย

กระบะตู้ทึบหัวร้อน ไหว้สวยขอโทษ ซิ่งหาเรื่องรถป้ายแดง เพิ่งรู้เป็น รองผกก.
   ด้านหนุ่มกระบะตู้ทึบหัวร้อน กล่าวว่า   ช่วงเกิดเหตุต้องรีบไปทำงานให้ทันเวลา7โมงเช้า  เลยต้องรีบขับรถ ตอนที่เจอรถรองผกก.ได้บีบแตรยาวใส่ตนช่วงที่ขับปาดหน้า กำลังจะขึ้นสะพาน ตนเลยมีอารมณ์ฉุนเฉียวโมโห เบรคกะทันหัน จอดรถลงมาโวย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะความใจร้อน และอยากจะขอโทษท่านรองผกก.

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ thainews