แย่แล้ว สามีนางอังคณารัตน์ เข้าโรงพยาบาลด่วน เครียดหนักเบาหวานกำเริบ

แย่แล้ว สามีนางอังคณารัตน์ เข้าโรงพยาบาลด่วน หลังเครียดหนัก จนอาการเบาหวานกำเริบ หลังมีข่าวถูกให้หย่าและไล่กลับบ้าน...

จากกรณีเรื่องราวสุดอลวนของนางอังคณารัตน์ ที่ล่าสุดได้โอนให้ลูกชายคนโตไปแล้ว 2 แสนบาท โอนให้นายมะนิช ไปก่อนหน้า 1 ล้านบาท และส่วนหนึ่งตนได้นำไปใช้หนี้ที่มีอยู่ เหลือในบัญชี 3.1 ล้านบาท ตกลงว่าจะโอนให้นายมะนิช 1.6 ล้านบาท ให้ลูกชายคนที่ 2 จำนวน 500,000 บาท และลูกสาวคนสุดท้อง จำนวน 1 ล้านบาท ซึ่งลูกทั้ง 2 คน ให้นายมะนิช ผู้เป็นพ่อ เปิดบัญชีร่วมด้วย สำหรับข้อกำหนดการเบิกถอนเงิน ลูกชายคนที่ 2 จะถอนเงินในบัญชีได้เมื่ออายุ 20 ปีขึ้นไป ส่วนลูกสาวจะถอนเงินได้เมื่ออายุ 18 ปีขึ้นไป โดยพ่อลูกต้องไปทำเรื่องเบิกถอนด้วยกันทุกครั้ง

 

แย่แล้ว สามีนางอังคณารัตน์ เข้าโรงพยาบาลด่วน เครียดหนักเบาหวานกำเริบ

 

ในส่วนข้อตกลงกันไว้ในตอนแรกกับพนักงานสอบสวน สภ.ธวัชบุรี ว่าจะต้องโอนเงินคืนให้นายมะนิช 1.6 ล้าน นั้นปรากฏว่า นายมะนิช เกิดเห็นใจเมีย และลูกห่วงลูกจะไม่มีเงินใช้จ่ายไปโรงเรียน จึงโอนให้เมียคืน 1 แสนบาท เพราะเงินในบัญชีลูกยังไม่สามารถเบิกถอนได้จึงให้เมียเก็บไว้ใช้จ่าย 

 

แย่แล้ว สามีนางอังคณารัตน์ เข้าโรงพยาบาลด่วน เครียดหนักเบาหวานกำเริบ

 

 

หลังโอนเงินเข้าบัญชีแก่ทุกคนตามข้อตกลงที่ทำกันไว้ พ่อแม่และลูก 2 คน ได้ถ่ายรูปร่วมกันเพื่อเป็นหลักฐานว่าทุกอย่างจบแล้ว นายมะนิช พูดสั้นๆว่า วันนี้รู้สึกสบายใจขึ้น ไม่คิดมากอีกแล้วเพราะทุกอย่างเป็นไปตามความต้องการ จากนี้จะขอใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ

 

แย่แล้ว สามีนางอังคณารัตน์ เข้าโรงพยาบาลด่วน เครียดหนักเบาหวานกำเริบ

โดย ลุงมะนิช เปิดเผยว่า สามีใหม่ของ นางอังคณารัตน์ น่าจะมีอาการเครียด เนื่องจากมีข่าวว่าจะถูกให้หย่าและไล่กลับบ้านโดยนัดลูกสาวมารับกลับบ้านที่ จ.ยโสธร ทำให้เกิดอาการเบาหวานกำเริบ

 

แย่แล้ว สามีนางอังคณารัตน์ เข้าโรงพยาบาลด่วน เครียดหนักเบาหวานกำเริบ

 

อย่างไรก็ตาม ลุงมะนิช ยังได้ระบุอีกว่า ตอนนี้ตนกับ นางอังคณารัตน์ ได้ตกลงกันใหม่เรียบร้อยแล้ว โดยเปลี่ยนใจที่จะไม่แยกทางกันและจะกลับมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตามปกติต่อไป เพื่อให้ลูกๆ และทุกคนมีครอบครัวที่อบอุ่นเหมือนเดิม

 

 

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline