ทนายดังมองเคส สาวลูกสองถูกผัวทำร้าย ย้ำเลยเรื่องหนึ่งที่ต้องระวังให้ดี

ทนายดังมองเคส สาวลูกสองถูกผัวทำร้าย โดยแม่สามีเรียกเก็บเงินค่าเช่า 7 แสน ย้ำเลยเรื่องหนึ่งที่ต้องระวังให้ดี

ทนายดังมองเคส สาวลูกสองถูกผัวทำร้าย ย้ำเลยเรื่องหนึ่งที่ต้องระวังให้ดี สืบเนื่องจากกรณีที่ สาวลูก 2 ที่ถูกสามีทำร้ายร่างกาย อีกทั้งยังโดนแม่สามีเรียกเก็บเงินค่าเช่าอีก 7 แสน แต่ที่แสบสุดๆ ก็คือ ทางครอบครัวสามีได้เก็บข้าวของออกจากบ้านไป ปล่อยให้เธออยู่กับลูกน้อยสองคน แล้วทำการตัดน้ำ และ ตัดไฟภายในบ้าน จนเธอต้องหอบลูกๆ หนีไปอยู่ที่อื่น ก่อนจะออกมาร้องสื่อเพื่อขอความเป็นธรรม

(อ่านข่าว : สาวลูก2 ร้องไห้ต่อหน้า กรรชัย ผัวซ้อม - แม่สามีตัดน้ำ-ตัดไฟ เรียกค่าเช่า 7 แสน)

 

ทนายดังมองเคส สาวลูกสองถูกผัวทำร้าย ย้ำเลยเรื่องหนึ่งที่ต้องระวังให้ดี

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล รองประธานคณะกรรมการเผยแพร่กฎหมาย สภาทนายความ ได้ระบุถึงเคสนี้ว่า แยกเป็น 2 เรื่อง เรื่องแรกกรณีถูกทำร้ายร่างกาย แน่นอนตัวของน้องต้องแจ้งความเพราะเป็นอาญาแผ่นดิน กรณีนี้มีอายุความ สามารถแจ้งความได้ภายใน 10 ปี ถูกกระทืบครั้งนึงก็ต้องแจ้งความครั้งนึง กรณีนี้เป็นความผิดขนานกับ พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ด้วย 

 


ดังนั้นตร.ต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่มีการจดทะเบียนรับรองบุตร การอุปการะค่าเลี้ยงดูบุตรทั้งสอง ก็มีสิทธิ์ไปฟ้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูจากพ่อได้ครับ ไปฟ้องศาลเยาวชนและครอบครัวกลางได้ กรณีกำหนดกันเท่าไหร่ ให้ศาลพิจารณา เพราะหน้าที่บิดามารดาต้องมีการจ่ายค่าเลี้ยงดูเท่าๆ กัน เป็นขั้นบันได หนึ่งขวบถึงห้าขวบเท่าไหร่ 5 ขวบ ถึง 8 ขวบ เท่าไหร่

 

ทนายดังมองเคส สาวลูกสองถูกผัวทำร้าย ย้ำเลยเรื่องหนึ่งที่ต้องระวังให้ดี

แต่กับกรณีไปแจ้งความไว้แล้ว สามารถไปแจ้งความเพิ่มได้ภายใน 10 ปี แต่ยังไงน่าจะรีบไปแจ้งความก่อน ส่วนตำรวจจะออกหมายเรียกความผิดไหนก็อยู่ที่ดุลยพินิจของตำรวจ ต้องมีการไกล่เกลี่ย เรื่องค่าอุปการะเลี้ยงดู โชคดีที่พ่อของเด็กได้จดทะเบียนรับรองบุตร เป็นเด็กที่ชอบด้วยกฎหมาย เด็กย่อมมีสิทธิ์ได้รับค่าเลี้ยงดูจากบิดามารดา เวลาตกลงกับสามี ให้ไปตกลงกันที่ศาล จะได้มีลายลักษณ์อักษร หลายๆ คนที่พลาด ไปเชื่อคารมฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิง สุดท้ายเรียกร้องกันไม่ได้ ก็มาฟ้องร้องกันอยู่ดี น้องต้องไปตกลงที่ศาล

ทนายดังมองเคส สาวลูกสองถูกผัวทำร้าย ย้ำเลยเรื่องหนึ่งที่ต้องระวังให้ดี
ทนายแก้ว ระบุถึงกรณีทวงเงินค่าเช้า 7.2 แสนอีกว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะน้องมาอยู่ในบ้านเป็นเรื่องความสมัครใจ หลาย ๆ อย่างที่เขาให้เรา เป็นการให้โดยเสน่หา จะมาเรียกร้องตามสัญญาเช่าก็ไม่มี อะไรก็ไม่มีที่เขาเรียก 7.2 แสน ไม่ต้องไปจ่ายครับ เพราะไม่มีอะไรเลยที่จะเรียกร้องกันได้ ส่วนตัดน้ำ-ตัดไฟก็เป็นสิทธิ์ของเขา เพราะเป็นบ้านเขา เราก็ไปว่าเขาไม่ได้ เขาหากลอุบายให้คุณออกไป

 


อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ ทนายแก้ว ยังได้เตือนหญิงสาวผู้เสียหายอีกเรื่องว่า  ยังไงพ่อเขาก็มีสิทธิ์ได้รับการดูแลตามที่กฎหมายกำหนด เราจะไปตัดขาดพ่อเขาเลยไม่ได้ ต้องตกลงเงื่อนไขกันในศาล และเรื่องค่าอุปการะเลี้ยงดู ต้องระวังตรงนี้ให้ดี

ทนายดังมองเคส สาวลูกสองถูกผัวทำร้าย ย้ำเลยเรื่องหนึ่งที่ต้องระวังให้ดี

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline