ตำรวจแฉเอง กลโกงมิจฉาชีพ พวกชอบสั่งของแบบเก็บเงินปลายทาง อ่านให้ไว

PCT Police ได้ออกมาโพสต์ให้ความรู้ เปิดเผลกลโกงของมิจฉาชีพ ใครที่ชอบสั่งของออนไลน์แบบเก็บเงินปลายทางต้องรู้

COD ย่อมาจาก Cash On Delivery คือการจัดส่งพัสดุแบบ เก็บเงินปลายทาง นักช้อปออนไลน์หลายคนชอบใช้วิธีนี้ ด้วยเหตุผลหลักๆ ก็คือ “ได้เห็นของก่อนจ่ายเงิน” แต่วิธีนี้อาจจะกลายเป็นช่องทางทำมาหากินของกลุ่มมิจฉาชีพ

- รูปแบบการซื้อของและชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์มีหลากหลาย ถ้าไม่ใช่ร้านค้าในแพลตฟอร์มเจ้าดัง ขายผ่านเฟซบุ๊กก็มักจะใช้วิธีโอนเงิน แต่บางคนที่อยากเห็นของชัวร์ๆ ก็ใช้วิธีเก็บเงินปลายทาง พอพัสดุมาถึงก็จ่ายเงินให้พนักงานได้เลย

- แต่ขณะนี้มีแก๊งมิจฉาชีพออกอาละวาด อาศัยที่ผู้รับเป็นคนที่ชอบสั่งของออนไลน์เป็นประจำ ส่งพัสดุแบบเก็บเงินปลายทาง โดยตั้งมูลค่าหลักร้อยบาท เมื่อผู้รับจ่ายเงินพนักงานแล้วแกะออกมา ปรากฎว่าเป็นของที่ผู้รับไม่รู้เรื่องมาก่อน

- หนำซ้ำ เป็นของที่ไม่อยากได้ และไม่คิดจะได้ ส่วนมากจะเป็นเสื้อผ้ามือสอง นาฬิการาคาถูก ของเล่น สินค้าราคาถูก ต้นทุนต่ำ สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ จุดสำคัญของสินค้าที่กลุ่มมิจฉาชีพนำส่งก็คือ น้ำหนักน้อยกว่า 1 กิโลกรัม เพราะค่าส่งถูกที่สุด แต่ที่กวนประสาทผู้รับมากที่สุดก็คือ บางคนส่งก้อนอิฐมอญ ส่งเกลือหนึ่งถุง ที่เป็นข่าว

- เมื่อติดต่อไปยังผู้ส่งก็ติดต่อไม่ได้ เพราะผู้ส่งตั้งชื่อร้านและเบอร์โทร. ที่ระบุบนกล่องก็อุปโลกน์ขึ้นมาอีก โดยปกติแล้วเวลาสั่งของแบบเก็บเงินปลายทาง ต้องจ่ายเงินและเซ็นรับพัสดุกับพนักงานขนส่งพัสดุก่อน ถึงจะแกะพัสดุได้ ซึ่งเราสามารถปฏิเสธที่จะรับพัสดุได้ตั้งแต่ต้น

 

- แต่ปัญหาก็คือ ผู้รับไม่รู้ว่าสั่งอะไรไป จึงยอมจ่ายเงินไปก่อน พอแกะพัสดุออกมาจึงรู้ว่าโดนหลอกเสียแล้ว พอติดต่อขอคืนเงินกับบริษัทขนส่งพัสดุก็ยุ่งยาก บางคนเห็นว่าเงินที่จ่ายไปเพียงไม่กี่ร้อยบาท ก็ไม่อยากจะไปโรงพักเพื่อเอาเรื่องให้เสียเวลา เลยปล่อยเลยตามเลย

- การที่คนร้ายจะส่งพัสดุไปหาใครก็ต้องมี ชื่อผู้รับ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์มือถือ วิธีการหาข้อมูลมีทั้งผ่านโซเชียลมีเดีย ที่ผู้ใช้งานบางคนมองข้ามความเป็นส่วนตัว ก็อาจจะพิมพ์ข้อมูลส่วนตัวโดยไม่ตั้งใจ

- บางคนใช้วิธีการแจ้งชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทร. สำหรับจัดส่งสินค้าลงในคอมเมนต์ เวลาเปิดให้พรีออเดอร์ของ หรือแจกสิ่งของต่างๆ เช่น แจกเสื้อ ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายมาก เพราะคนร้ายรู้หมดเลยว่าแต่ละชื่อที่คอมเมนต์เป็นใครมาจากไหน

- กรณีที่ผู้ค้าออนไลน์บางคน ละเลยความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ถ่ายรูปกล่องพัสดุแล้วโพสต์ภาพลงในหน้าเพจ เพื่อแจ้งว่าส่งสินค้าไปแล้ว โดยที่ละเลยว่าข้อมูลการจ่าหน้าในภาพ ผู้ใดพบเห็นก็เก็บข้อมูลเหล่านี้ไปใช้กระทำความผิดได้

- อีกวิธีหนึ่ง กลุ่มมิจฉาชีพอาจจะใช้วิธีรู้กันกับตัวแทนบริษัทขนส่งพัสดุ ซึ่งอาจจะเป็นสาขา หรือตัวพนักงานส่งพัสดุเอง นำข้อมูลของลูกค้าไปใช้กระทำความผิด โดยที่ลูกค้าไม่รู้ตัว ซึ่งทางสำนักงานใหญ่อาจจะละเลยหรือตรวจสอบได้ยาก

- ผู้เสียหายรายหนึ่ง ถูกพนักงานบริษัทขนส่งพัสดุแจ้งว่ามีพัสดุเก็บเงิน 344 บาท ด้วยความที่สั่งของไว้เยอะ ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรเลยจ่ายเงินไปก่อน พอแกะออกมาพบว่าเป็นนาฬิการาคาถูกมาก พอติดต่อต้นทางที่จ่าหน้าไว้ก็ติดต่อไม่ได้

- ที่สลับซับซ้อนไปอีกก็คือ กลุ่มมิจฉาชีพอาศัยแพลตฟอร์มชอปปิ้งออนไลน์ เปิดจำหน่ายสินค้าเหมือนร้านค้าทั่วไป เมื่อลูกค้าสั่งของ ร้านค้าก็จะได้ข้อมูลชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์สำหรับการจัดส่ง ก็อาศัยข้อมูลเหล่านี้ส่งพัสดุแบบ COD อีกทีหนึ่ง

- สำหรับการป้องกันมิจฉาชีพเหล่านี้ มีหลายวิธี พอจะยกตัวอย่างได้ เช่น ให้แจ้งทุกคนในบ้านว่า เวลาที่เราไม่อยู่บ้าน ถ้ามีพัสดุแบบเก็บเงินเข้ามา ให้โทร. ถามก่อน อย่าเพิ่งออกเงินไปก่อน หรือเซ็นรับของเด็ดขาด

- ส่วนเวลาที่เราซื้อของออนไลน์อะไรไป ควรจดใส่กระดาษแปะข้างฝา หรือใช้กระดาษโพสต์-อิทเขียน แล้วแปะไว้บนผนังว่า เราสั่งของอะไรไปบ้าง ราคาเท่าไหร่ จ่ายเงินแล้วหรือยังไม่ได้จ่าย เพื่อเตือนความจำไปในตัว

- ถ้ามีชื่อเราเป็นผู้รับพัสดุ แม้พัสดุแบบเก็บเงินปลายทางจะไม่อนุญาตให้แกะกล่องจนกว่าจะจ่ายเงิน แต่ให้ลองพิจารณากล่องดูว่าใช่ของที่เราสั่งหรือเปล่า ดูที่จ่าหน้าส่งมาจากไหน ระบุเป็นสิ่งของอะไร ถ้าไม่แน่ใจให้ปฏิเสธรับของได้เลย

- อีกอย่างหนึ่งที่แนะนำ คือ เลือกซื้อของกับร้านค้าที่เชื่อถือได้ หรือแพลตฟอร์มชอปปิ้งออนไลน์ แล้วชำระเงินก่อนได้รับสินค้า เพราะจะมีระบบติดตามร้านค้า และมีช่องทางคืนสินค้าเป็นหลักเป็นแหล่งมากกว่า

-หากเป็นร้านค้าบนเพจหรือกลุ่มเฟซบุ๊ก ให้ติดต่อผู้ขายผ่านกล่องข้อความเท่านั้น อย่าโพสต์ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ไว้ที่ช่องคอมเมนต์เด็ดขาด ส่วนฝั่งร้านค้าเวลาแจ้งส่งพัสดุ ไม่ควรถ่ายรูปกล่องพัสดุที่ระบุใบจ่าหน้าถึงลูกค้าลงเพจโดยตรง

- ที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ เอากล่องพัสดุไปทิ้งหรือชั่งกิโลขาย ต้องขีดฆ่าหรือลบชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทร. บนกล่องพัสดุ ใบจ่าหน้า หรือสติกเกอร์จ่าหน้าให้หมด ปัจจุบันมีลูกกลิ้งสำหรับปิดข้อความ แต่ถ้าไม่สะดวกใช้ปากกาเคมีสีดำขีดทับให้หมดก็ได้ เพราะอาจจะเปิดช่องให้กลุ่มมิจฉาชีพ นำข้อมูลที่จ่าหน้า ส่งพัสดุแก่เหยื่ออย่างเราๆ ได้

ตำรวจแฉเอง กลโกงมิจฉาชีพ พวกชอบสั่งของแบบเก็บเงินปลายทาง อ่านให้ไว

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ https://www.thainewsonline.co/