จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับแหล่งค้าซากตัวเงินตัวทอง มีทั้งซากชำแหละและตัวเป็นๆ และมีเพจหนึ่งเผยว่าเนื้อตัวเงินตัวทองเหล่านั้นจะถูกส่งไปทำลูกชิ้นแทนเนื้อปลา ล่าสุดชี้แจงกระจ่างแล้ว

เพจเฟซบุ๊กตำรวจสอบสวนกลางได้ชี้แจงข้อมูลกรณีมีเพจรายงานข่าวทลายโรงงานผลิตลูกชิ้นพบซากตัวเงินตัวทองจำนวนมาก คาดว่านำไปทำลูกชิ้นตัวเงินตัวทองนั้น ล่าสุดทางเพจได้ออกมาชี้แจงว่าโรงงานดังกล่าวไม่ได้ผลิตลูกชิ้นเนื้อตัวเงินตัวทอง แต่ซากตัวเงินตัวทองดังกล่าวนั้นเป็นการชำแหละส่งร้านอาหารป่า ซึ่งนอกจากตัวเงินตัวทองยังพบเต่าอีกหลายชนิดด้วย

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ยืนยัน บุกทลายโรงชำแหละส่งร้านอาหารป่า ไม่ใช่โรงงานผลิตลูกชิ้น

กรณีที่มีเพจหนึ่งโพสต์รูปภาพตัวเงินตัวทอง พร้อมข้อความระบุว่า "บุกทลายโรงงานผลิตลูกชิ้นปลาเจ้าใหญ่ที่ดัดแปลงใช้เนื้อของตัวเงินตัวทองมาทำเป็นลูกชิ้นปลาเนื้อขาวใสไร้ความคาว ส่วนหนังน่านำไปตากแห้งทำเป็นหนังปลาทอดกรอบ จัดจำหน่ายส่งขายทั่วประเทศมานานแล้ว"

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ขอระบุว่า ภาพดังกล่าวเป็นผลงานการจับกุมของตำรวจ บก.ปทส. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ที่เข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาที่ลักลอบซื้อขายเพื่อการค้าและมีไว้ในครอบครองซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกสัตว์เลื้อยคลาน ในพื้นที่อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เมื่อวานที่ผ่านมา

 

ตำรวจแจงแล้ว ปมบุกจับโรงงานชำแหละตัวเงินตัวทองส่งทำลูกชิ้นแทนปลา

 

โดยจากการสอบถามผู้ต้องหา และจากการสืบสวน ยืนยันว่า ซากตัวเงินตัวทองเหล่านี้ เตรียมนำไปขายต่อที่ตลาดชายแดนภาคตะวันออก เพื่อนำไปประกอบเป็นอาหารป่าขายแก่ผู้ชื่นชอบเท่านั้น ไม่ได้เป็นไปตามที่มีกระแสข่าวแต่อย่างใด

ตำรวจแจงแล้ว ปมบุกจับโรงงานชำแหละตัวเงินตัวทองส่งทำลูกชิ้นแทนปลา

 

สำหรับการจับกุมดังกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงาน ตํารวจสอบสวนกลาง (CIB) บุกจับกลุ่มผู้ลักลอบค้าตัวเงินตัวทองและเต่าคุ้มครอง ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี 

กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส., พ.ต.อ.อริยพล สินสอน, พ.ต.อ.อรุณ วัชรศรีสุกัญยา รอง ผบก.ปทส., 
พ.ต.อ.วิญญู แจ่มใส ผกก.2 บก.ปทส., พ.ต.อ.ภัทรวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ปทส., พ.ต.ท.ปกรษณ์เกียรติ พงษ์ธนนิกร รอง ผกก.2 บก.ปทส., พ.ต.ท.กรกช ยงยืน รอง ผกก.2 บก.ปทส.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.นัธทวัฒน์ สุรนารถ สว.กก.2 บก.ปทส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ปทส., เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5.บก.ปทส., เจ้าหน้าที่ ชุด สปป.1 (ภาคกลาง) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช, เจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามด้านสัตว์ป่าสายที่ 3 สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และผู้ใหญ่บ้าน ม.12 ต.บ้านโซ้ง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี

 

ตำรวจแจงแล้ว ปมบุกจับโรงงานชำแหละตัวเงินตัวทองส่งทำลูกชิ้นแทนปลา

ร่วมกันจับกุม 

1. นายมนต์ (สงวนนามสกุล) อายุ 73 ปี 
2. นายประสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี 

โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 รายถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 

มาตรา 17 ประกอบมาตรา 92 ข้อหา Wร่วมกันมีไว้ในครอบครองซี่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่W ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 29 ประกอบมาตรา 89 ข้อหา Wร่วมกันค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่W ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พร้อมตรวจยึดของกลาง 
1. ตัวเงินตัวทอง (Varanus salvator) 32 ตัว
2. ซากตัวเงินตัวทอง จำนวน 59 ซาก
3. เต่านา (Malayemys subtrijuga) 20 ตัว
4. เต่าดํา หรือ เต่ากา (Siebenrockiella crassicollis) 6 ตัว
5. เต่าหับ (Cuora amboinensis) 2 ตัว 
รวมยึดสัตว์ป่าคุ้มครองพร้อมทั้งซากรวม 115 ตัว/ซาก 
พร้อมตรวจยึดอุปกรณ์ที่ใช้ในการเผา ชำแหละ บรรจุรวมทั้งสิ้น 13 ราย 

สถานที่จับกุม บริเวณบ้านพักในพื้นที่ ต.บ้านโข้ง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี วันที่ 28 ก.พ. 66 เวลา 08.30 น.

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่า มีกลุ่มบุคคลลักลอบซื้อขายสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลื้อยคลาน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่หน่วยสนับสนุนป้องกันและปราปรามที่ 1 (ภาคกลาง) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมกันเข้าตรวจสอบบริเวณบ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.บ้านโข้ง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี จากการตรวจสอบพบ สัตว์ป่าคุ้มครองประเภทสัตว์เลื้อยคลานและซากหลายรายการ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย 

จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยของกลางทั้งหมดได้ส่งมอบให้แก่เจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามด้านสัตว์ป่า สายที่ 3 สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) รับไปดำเนินการเพื่อส่งมอบให้กับเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี เพื่อดำเนินการตามระเบียบต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่ารับสัตว์และซากสัตว์ของกลางมาจากชาวบ้านในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง โดยจะมีผู้รวบรวมมาขายให้ จากนั้นผู้ต้องหาจะนำส่งร้านอาหารป่าในพื้นที่ จ.ตราด

 

ขอบคุณ ตำรวจสอบสวนกลาง