เกิดอะไรขึ้น "สรยุทธ" ลุกหนีกลางรายการ หลังฟังสัมภาษณ์ทางโฟนอิน

เกิดอะไรขึ้น "สรยุทธ" ลุกหนีกลางรายการ หลังฟังสัมภาษณ์ทางโฟนอิน เป็นครั้งแรกในรายการ ทำเอาฮือฮาทั้งโซเชียล!

จากการณีเป็นที่ฮือฮาอย่างมากในโลกออนไลน์อย่างมาก เมื่อล่าสุด (1 มิ.ย. 66) ในรายการ กรรมกรข่าว คุยนอกจอ ได้มีการโทรศัพท์สัมภาษณ์นายจเด็จ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยมี น.ต. ศิธา ทิวารี สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย นั่งร่วมรายการด้วย

 

โดยนายจเด็จ กล่าวว่า เรื่องรัฐบาลแห่งชาติ ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง แค่เป็นความเห็นของตนเองเท่านั้น เนื่องจาก 15 วันหลังเลือกตั้ง มีความคืบหน้าจัดตั้งรัฐบาล แต่เป็นความคืบหน้าไม่จริง ไม่มีความชัดเจน เรื่องประธานสภาก็ยังไม่จบ ทำให้ชวนคิดได้ว่า ประเทศจะไปยังไงต่อ เส้นทาง 60 วันกว่าจะเลือกนายกรัฐมนตรีจบยาก ตนคิดว่าตนไม่มีความผิดอะไรที่มีแนวคิดทำให้คนไทยสามัคคี เป็นการเมืองของประชาชน ไม่ใช่การเมืองของนายทุน หลังจากนั้น นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรถามกลับว่า "แล้วเลือกตั้งมาทำไมฮะ" นายจเด็จ ตอบว่า เลือกตั้งเพื่อเอาหัวกะทิของแต่ละพรรคมา ไม่มีการแบ่งฝักฝ่าย ทำให้การเมืองมีศักดิ์ศรี แม้จะยาก แต่ก็ไม่ใช่ความคิดใหม่

 

เกิดอะไรขึ้น "สรยุทธ" ลุกหนีกลางรายการ หลังฟังสัมภาษณ์ทางโฟนอิน

 

ต่อมา ทางด้าน น.ต. ศิธา ถามเสริมว่า ถ้าหากเป็นพรรคพลังประชารัฐกับรวมไทยสร้างชาติ มี ส.ส. 300 กว่าเสียง นายจเด็จจะเสนอรัฐบาลแห่งชาติแบบนี้ไหม ซึ่งนายจเด็จตอบว่า ก็ยังเสนอเหมือนเดิม เพราะนักรัฐศาสตร์คิดเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก กลายเป็นเมืองในฝัน ต่อมา น.ต. ศิธา ถามต่อไปว่า แล้วแบบนี้เราจะเลือกตั้งเสียเงินไปกว่า 6,000 ล้านบาทไปทำไม นายจเด็จ ตอบว่า เลือกตั้งไป 5,000 ล้านบาท ก็เพื่อคัดหัวกะทิมาทำงานการเมือง หลังจากนั้น น.ต. ศิธา ยังกล่าวเสริมว่า นายจเด็จ เคยเสนอว่า ให้ควรยกเว้นรัฐธรรมนูญบางมาตรา ดังนั้น ตนจึงเห็นทางสว่าง ขอเสนอว่า ให้งดเว้นมาตรา 272 เรื่อง ส.ว. โหวตนายกฯ เอาจระเข้ขวางคลองออกไป เพื่อไม่ให้งบ 6,000 ล้านสูญเปล่า

 

เกิดอะไรขึ้น "สรยุทธ" ลุกหนีกลางรายการ หลังฟังสัมภาษณ์ทางโฟนอิน

 

หลังจากนั้น นายจเด็จ กล่าวว่า เรามองกันคนละมุม เพราะมาตรา 272 ประชาชนลงประชามติไม่ต่ำกว่า 15 ล้านเสียงในปี 2559 เห็นชอบให้ ส.ว. มีส่วนเลือกนายกรัฐมนตรีด้วย ดังนั้นคุณูปการของมาตรา 272 มันก็มี เพื่อแก้ปัญหาการนำเสนอคนบางคน โดยไม่ได้พิจารณาความเหมาะสมในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันเป็นพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉะนั้นเสียงของ ส.ว. จึงมาแนะได้ถึงความเหมาะสม อีกอย่างหนึ่งคือ เหลือเวลาของ ส.ว. ชุดนี้เหลือไม่ถึงปี มาตรา 272 ก็จะหมดวาระ "อดทนหน่อยไม่ได้หรือ" มันมาด้วยความชอบของกฎหมาย ซึ่ง น.ต. ศิธา ตอบกลับไปว่า คำว่าอดทนไม่ได้หรือ คือ มันไม่ใช่ความอดทนของตน แต่เป็นความอดทนของประชาชนที่ต้องการประชาธิปไตยมา 9 ปีแล้ว อีกอย่างหนึ่งคือ ส.ว. รับเงินเดือนมาจากประชาชนมา มันยังไม่พออีกหรือ?

 

เกิดอะไรขึ้น "สรยุทธ" ลุกหนีกลางรายการ หลังฟังสัมภาษณ์ทางโฟนอิน

 

ทั้งนี้ นายจเด็จ ยังคงย้ำคำเดิมตลอดการสัมภาษณ์ สนับสนุนเรื่องการตั้งรัฐบาลแห่งชาติ เพื่อแก้ปัญหาความวุ่นวายต่าง ๆ ป้องกันการทำการเมืองบนถนน และทำเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไร ต้องการทำให้คนไทยสามัคคี พวกคุณยังไม่เห็นอีกหรือ นอกจากนี้ ยังมีวรรคทองของนายจเด็จอีก 1 คำคือ "ระบอบไม่สำคัญเท่าตัวคน" ประชาธิปไตยที่ขาดศีลธรรม มันเลวร้ายกว่าระบอบการปกครองประเทศไหน ๆ อีก สุดท้าย นายสรยุทธ กับ น.ต. ศิธา ได้ลุกพร้อมกัน และขอตัวไปเข้าห้องน้ำทั้งคู่ แต่ก็ไม่ได้ไป นั่งจัดรายการต่ออีกสักพัก ก่อนที่นายสรยุทธ จะขอเวลา 2 นาที ลุกไปเข้าห้องน้ำจริง ๆ แล้วบอกให้ น.ต. ศิธา จัดรายการถามนายจเด็จต่อไป

 

เกิดอะไรขึ้น "สรยุทธ" ลุกหนีกลางรายการ หลังฟังสัมภาษณ์ทางโฟนอิน

 

ชมคลิป