เปิดตำนาน "ครูกายแก้ว" บรมครูผู้เรืองเวท เชื่อกันว่าเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ

เปิดตำนาน "ครูกายแก้ว" บรมครูผู้เรืองเวท มนุษย์สีดำขลับแต่มีปีก ตาสีแดง เขี้ยวทอง เชื่อกันว่าเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ

เปิดตำนาน "ครูกายแก้ว" บรมครูผู้เรืองเวท เชื่อกันว่าเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ : ทำเอาหลายคนต่างสงสัยและอยากรู้ไปตามๆ กัน หลังจาก รถบรรทุกรูปปั้นที่เดินทางมาจากโรงหล่อ จ.ราชบุรี เพื่อนำไปส่งยังโรงแรมแห่งหนึ่งย่าน รัชดา - ลาดพร้าว แต่เมื่อมาถึงบริเวณ รัชดาภิเษก 36 รูปปั้นมีขนาดสูงเกินกว่าสะพานลอยคนข้าม ไม่สามารถผ่านไปได้ ส่งผลกระทบทำให้การจราจร ถ.รัชดาภิเษกขาเข้า เป็นอัมพาตชั่วขณะ และรถติดสะสมต่อเนื่องถึงสะพานพระราม 7 

 

เปิดตำนาน ครูกายแก้ว บรมครูผู้เรืองเวท มนุษย์สีดำขลับแต่มีปีก ตาสีแดง เขี้ยวทอง เชื่อกันว่าเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ

 

แต่นอกเหนือจากเหตุรถติดสาหัสที่ถูกพูดถึงในวงกว้างแล้ว ก็ยังพูดถึงลักษณะที่น่าเกรงขาม รูปกายเป็นมนุษย์สีดำขลับแต่มีปีก ตาสีแดง เขี้ยวทอง เล็บงอกยาวแดง ซึ่งต่อมาถึงทราบว่า รูปปั้นดังกล่าวคือรูปปั้น "ครูกายแก้ว" เป็นที่รู้จักและเคารพบูชา เชื่อกันว่าเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ


"ตำนานครูกายแก้ว"
"ครูกายแก้ว" หรือที่หลายๆ คนอาจรู้จักกันในนามของ "พ่อใหญ่ บรมครูผู้เรืองเวท" นี้ มีที่มาเท่าที่ปรากฎว่ามากับพระธุดงค์ที่จังหวัดลำปาง จากการที่พระรูปนี้ได้ธุดงค์ไปทำสมาธิที่ปราสาทนครวัดนครธม ประเทศกัมพูชา และต่อมาก็ได้มอบครูกายแก้วนี้ให้กับลูกศิษย์นั่นก็คือ อาจารย์ถวิล มิลินทจินดา หรือ พ่อหวิน นักร้องเพลงไทยเดิมของกองดุริยางค์ทหาร ผู้เป็นอาจารย์ของท่านอาจารย์สุชาติ รัตนสุข ผู้สร้างองค์ปฐมของครูกายแก้วขึ้นในประเทศไทย

เปิดตำนาน ครูกายแก้ว บรมครูผู้เรืองเวท มนุษย์สีดำขลับแต่มีปีก ตาสีแดง เขี้ยวทอง เชื่อกันว่าเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ


ครั้งแรกที่อาจารย์สุชาติได้รับมอบครูกายแก้วมานั้น องค์ครูมีขนาดเล็ก เป็นลักษณะคนนั่งหน้าตักเพียงแค่ประมาณ 2 นิ้วเท่านั้น และต่อมา "ครูกายแก้ว" ก็ปรากฏกายให้อาจารย์สุชาติได้เห็น ในตอนนั้นเองอาจารย์สุชาติก็ได้ทำการวาดภาพของ "ครูกายแก้ว" จากจินตนาการ และทำการหล่อรูปองค์ครูขึ้นเป็นองค์แรก มีลักษณะเป็นองค์ยืน คล้ายคนแก่ นำไปไว้ที่สำนัก จุดประสงค์ก็เพื่อเป็นการบูชาครูนั่นเอง

 


โดยรูปร่างลักษณะขององค์ "ครูกายแก้ว" ที่อาจารย์สุชาติสร้างขึ้นมานั้น เป็นลักษณะของผู้บำเพ็ญกึ่งมนุษย์กึ่งนก มีปีกด้านหลัง มีเขี้ยวทองเพื่อสื่อถึงนกการเวก อ้างอิงตามหลักฐานที่ปรากฏอยู่บนกำแพงบายน ที่มีประวัติของการเวกซึ่งเป็นพวกนักดีดสีตีเป่า ถือเป็นครูของศาสตร์ศิลป์ทั้งหลายในยุคของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ของกัมพูชา

 

เปิดตำนาน ครูกายแก้ว บรมครูผู้เรืองเวท มนุษย์สีดำขลับแต่มีปีก ตาสีแดง เขี้ยวทอง เชื่อกันว่าเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ

ปัจจุบันองค์ปฐมแบบยืนของ "ครูกายแก้ว" นั้นถูกย้ายไปไว้ที่บ้านของคุณสุวรรณี เต็มเจริญสุข ส่วน "ครูกายแก้ว" องค์ต่อมาที่เป็นแบบองค์นั่งก็ถูกเก็บเอาไว้บูชาที่บ้านของท่านอาจารย์สุชาติเอง แต่หากว่าใครอยากจะกราบไหว้ขอพรองค์ "ครูกายแก้ว" ก็สามารถไปได้ที่เทวาลัยพระพิฆเนศห้วยขวาง ที่นั่นมีองค์ "ครูกายแก้ว" แบบนั่งเช่นเดียวกัน


การบูชาองค์ครูกายแก้ว
เหล่าศิษยานุศิษย์จะทำการบูชา "ครูกายแก้ว" ด้วยธูป 5 ดอก กราบไหว้องค์ครู หลังจากนั้นจะทำการถวายเงินที่ตู้แก้วของ "ครูกายแก้ว" และทำการเคาะแล้วจึงขอพรบอกกล่าวความปรารถนาแก่องค์ท่าน


นอกจากองค์ "ครูกายแก้ว" ที่อยู่ที่ประเทศไทยแล้ว ความศรัทธาที่มีต่อครูนี้ก็ยังเผยแผ่ไปไกลยังฮ่องกง โดยที่นั่นเองก็มีองค์ "ครูกายแก้ว" ซึ่งเป็นที่เลื่องลือในด้านของความศักดิ์สิทธิ์ ให้พรในเรื่องความสำเร็จ ความร่ำรวย เจริญรุ่งเรืองเงินทอง จนชาวฮ่องกงพากันเปรียบองค์ "ครูกายแก้ว" เป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวยเลยทีเดียว

เปิดตำนาน ครูกายแก้ว บรมครูผู้เรืองเวท มนุษย์สีดำขลับแต่มีปีก ตาสีแดง เขี้ยวทอง เชื่อกันว่าเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ
ภาพจาก ศูนย์วิทยุชาลีกรุงเทพ - เทวาลัยพระพิฆเนศบางใหญ่