เช็ค "เงินดิจิทัล 10,000 บาท" ได้วันไหน และใครได้บ้าง

ภายหลังจากการโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า นายเศรษฐา ทวีสิน จากพรรคเพื่อไทย ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ประชาชนแห่ถาม เงินดิจิทัล 10,000 บาทตามนโยบายนั้นจะได้วันไหน

วันที่ 22 สิงหาคม 2566 หลังจบการโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 และผลสรุปคือ "นายเศรษฐา ทวีสิน" ได้นั่งแท่นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทยแล้วเป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่สภาได้มีการโหวตโดยเสียงเห็นชอบทั้งหมด 482 ไม่เห็นชอบ165 งดออกเสียง 81 จากทั้งหมด 728 ซึ่งเพียงพอต่อเสียงที่ต้องการ 375 เสียง และก่อนหน้านี้ทางพรรคร่วมรัฐบาลเผยว่าจะนำนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทยมาเป็นนโยบายหลักในการบริหารประเทศ

 

เช็ค เงินดิจิทัล 10,000 บาท ได้วันไหน และใครได้บ้าง

เช็ค เงินดิจิทัล 10,000 บาท ได้วันไหน และใครได้บ้าง

 

ทำให้ประชาชนจำนวนมาแห่ทวงถามถึงนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท หรือ เงินดิจิตอล 10,000 บาท ว่าจะได้วันไหนและรอจับตานโยบายต่างๆว่าจะเป็นการ ขายฝัน หรือไม่

วันนี้เราได้รวบรวมเอาข้อมูลเรื่องนโยบายเงินดิจิตอล 10,000 บาท (เงินดิจิทัล 10,000 บาท) ของพรรคเพื่อไทยมาให้ทราบกัน

- ทำความรู้จัก เงินดิจิทัล 10,000 บาท คืออะไร

นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท พรรคเพื่อไทยเผยเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ในช่วง 6 เดือน จะมีมาตรการทางเศรษฐกิจอื่นๆ รองรับด้วย จากนี้ไป คนไทยจะมี 2 บัญชี คือ บัญชีออมทรัพย์ทั่วไป และ บัญชีดิจิทัลวอลเล็ต โดยใช้บล็อกเชนเขียนเงื่อนไขลงไปบนเงิน ว่าต้องใช้ภายใน 6 เดือน และรัศมี 4 กิโลเมตร ซึ่งแตกต่างจากแอปเป๋าตัง โดยมีวงเงินที่ต้องใช้ 560,000 ล้านบาท ที่พรรคเพื่อไทย ได้หาเสียงเอาไว้ก่อนการเลือกตั้ง 

เช็ค เงินดิจิทัล 10,000 บาท ได้วันไหน และใครได้บ้าง

 

- ใครได้เงินดิจิทัล 10,000 บาท บ้าง

ผู้ที่จะได้รับเงินดิจิทัล กำหนดเงื่อนไขว่า ต้องเป็นประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไป ได้รับเงิน 10,000 บาท เข้าดิจิทัลวอลเล็ต ที่ถูกสร้างโดยรัฐบาลที่พรรคเพื่อไทยเป็นผู้สร้าง สำหรับประชาชนที่มีสวัสดิการอื่นๆ เช่น คนพิการ คนชรา ก็จะได้รับเต็มจำนวนไม่หักลด

- และคำถามที่หลายๆคนอยากรู้มากที่สุด "เงินดิจิทัล 10,000 บาท ได้วันไหน"

คำตอบคือ "หากมีการจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้น และไม่พลิกความคาดหมายหรือไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คาดว่าจะเริ่มโครงการได้วันที่ 1 ม.ค. 2567"

- เงินดิจิทัล 10,000 ใช้ยังไง

มีเงื่อนไข 2 ข้อ คือ ซื้อของภายในรัศมี 4 กิโลเมตร จากที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน จะซื้ออาหาร เครื่องดื่ม ยารักษาโรค เครื่องมือทำกิน ได้ทั้งนั้น หากพื้นที่ไหนไม่มีร้านค้า สามารถขยายได้ แต่ไม่อนุญาตให้ใช้นอกพื้นที่ หากอาศัยอยู่คนละที่ กับที่อยู่ในทะเบียนบ้าน จำเป็นต้องกลับไปเยี่ยมบ้านเท่านั้น และต้องใช้ให้หมดภายในระยะเวลา 6 เดือน จะใช้ทีเดียว หรือ ทยอยใช้ก็ได้