ยิ่งกว่าใจดำ สาวเล่าเหตุการณ์ กระเป๋ารถเมล์ หิ้วเด็กมาทิ้ง ริมฟุตปาธ สลดใจ ผู้โดยสารจะลงไปช่วย แต่โดนคนขับรถห้ามแถมให้ไปลงป้ายอื่น ...

จากกรณีโลกออนไลน์มีการแชร์เรื่องราวของผู้ใช้เฟซบุ๊กสาวท่านหนึ่ง หลังพบเหตุการณ์ กระเป๋ารถเมล์หิ้วเด็กเป็นลมมาทิ้งรีบฟุตปาธ ด้วยเหตุผลที่ว่าบนรถคนแน่น 

ล่าสุดไทยนิวส์ออนไลน์ ได้สัมภาษณ์คุณปูเป้ เจ้าของโพสต์ โดยคุณปูเป้ เล่าว่าพบเหตุการณ์นี้ในวันเสาร์ ช่วง 18.00น. ระหว่างที่เธอเดินจ่ายตลาดอยู่ริมถนน ข้างหน้ามันจะมีป้ายรถเมล์ แล้วรถเมล์เข้ามาจอดประมาณ 3 - 5 นาที แล้วรถมันติด คุณปูเป้ ก็เลยได้เห็นว่ามีกระเป๋ารถเมล์ หิ้วเด็กลงมาจากรถเมล์ ในสภาพคนที่สลบกึ่งคนเมา มาไว้ริมฟุตปาธแล้วก็ปล่อยให้น้องนอนชัก อยู่ตรงนั้น เราก็ตกใจว่าทำไมถึงทิ้งคนไว้แบบนี้ พบหันไปมองรถเมล์ก็ออกตัวไปเลย 

 

ความจริงยิ่งสลด รถเมล์ทิ้งเด็กข้างถนน ผู้โดยสารลงไปช่วย คนขับปิดประตูใส่

 


 

ซึ่งตรงนั้นมีผู้ชายยืนอยู่คนเดียวเค้าก็งง เราก็เลยรีบเข้าไปดูแล้วลากน้องขึ้นมาจากฟุตปาธ เพราะว่าถ้าไม่ลากรถมันจะชนน้องเพราะอีกครึ่งท่อนน้องอยู่ริมถนน เราก็ดึงขึ้นมาก่อนพอเห็นหน้าถึงรู้ว่าเป็นเด็ก ไม่ใช่คนเมา

พอน้องฟื้นเราก็ถามว่าน้องเป็นอะไร น้องก็บอกว่าน้องเป็นลม เราก็เลยปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ ประมาณ 10 นาที ก็มีผู้หญิงที่อยู่บนรถเมล์คันเดียวกับน้องวิ่งมา คุณปูเป้  จึงได้สอบถามถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าว่าเกิดอะไรขึ้น ด้าน ผู้หญิงรายนี้เล่าว่าตอนแรกตนก็จะลงป้ายที่กระเป๋ารถเมล์หิ้วเด็กลงมาทิ้ง แต่คนขับไม่ยอมให้ลง 

ซึ่งบนรถนั้นผู้โดยสารแน่นมาก จนไม่มีอากาศหายใจ แล้วน้องจะเป็นลม กระเป๋าเลยจะเอาน้องลงมานอน และในตอนนั้นจะมีคนอื่นลงมาดูด้วยแต่คนขับรถเมล์ไม่ยอม บอกเพียงว่าจะให้ทำยังไงคนแน่นคนเต็มรถเลย 

 

ความจริงยิ่งสลด รถเมล์ทิ้งเด็กข้างถนน ผู้โดยสารลงไปช่วย คนขับปิดประตูใส่

พอป้ายต่อไปคนขับถึงยอมให้ลงได้ ผู้หญิงคนนั้นจึงรีบเดินมาดูน้องว่าเป็นอะไรหรือเปล่า โดยผู้หญิงคนนั้นเล่าว่าน้องจะเป็นลมตั้งแต่อยู่บนรถเมล์แล้ว คุณปูเป้ จึงถามกลับว่าแล้วทำไมรถเมล์ถึงทิ้งนอนแบบนี้ ทำไมไม่โทรเรียกรถฉุกเฉิน หรือ เรียนตำรวจ มันเลยทำให้เรารับไม่ได้จึงออกไปโพสต์ ว่าไม่ควรทำกับน้องแบบนี้ เพราะน้องเค้าเป็นเด็กด้วย แล้วเด็กเค้าก็ไม่รู้ว่าควรทำยังไงหรือเปล่า มันไม่ควรปล่อยคนที่สลบทิ้งไว้ หลังจากนั้นน้องก็กลับกับผู้หญิงคนนั้น

จริงๆบนรถเมล์ มันมีกล้องวงจรปิด แต่พอคุณปูเป้สอบถามไปทางแอดมินบริษัทสมายบัส พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่เจอ ทางบริษัทก็แจ้งมาเบื้องต้นว่าจะอบรมพนักงาน พร้อมกับยอมรับผิด แต่ก็ไม่ได้เช็คกล้องวงจรปิด อย่างที่คุณปูเป้ ร้องขอ