หญิงอายุ 48 ป่วยวัณโรคปอด 14 ปีก่อน ล่าสุด ไอเป็นเลือด ก่อนไปหาหมอ เจอเต็ม ๆ

"หมอหมูญ" นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจและผู้ป่วยหนัก ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า 

ผู้ป่วยหญิงอายุ 48 ปี เคยป่วยเป็นวัณโรคปอดเมื่อ 14 ปีที่แล้ว รักษานาน 9 เดือน ไอเป็นเลือดครั้งแรกเมื่อ 4 ปีก่อน ปีที่แล้วไอเป็นเลือด ปีนี้เดือนเมษายนก็ไอเป็นเลือด ที่รพ.อื่นตรวจเสมหะเพาะเชื้อวัณโรค พบเชื้อวัณโรคเทียม Mycobacterium abscessus แต่ไม่ได้ตรวจหาความไวต่อยา มารพ.วิชัยยุทธเดือนพฤษภาคมด้วยไอเป็นเลือดสด ไม่เหนื่อย น้ำหนักไม่ลด ไม่มีไข้ ไม่เคยสูบบุหรี่

ตรวจร่างกายปกติ เอกซเรย์ปอดด้านบนขวาผิดปกติ (ดูรูป)

ทำคอมพิวเตอร์ปอดพบหลอดลมโป่งพองที่ปอดขวากลีบบนและกลีบกลาง (ดูรูป)

ตรวจสมรรถภาพปอด ผลปกติ

ส่งเสมหะเพาะเชื้อวัณโรค ขึ้นเชื้อวัณโรคเทียม เนื่องจากปริมาณน้อยไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นเชื้ออะไร และไม่สามารถตรวจหาความไวต่อยา

วินิจฉัย : ไอเป็นเลือดจากโรคหลอดลมโป่งพอง ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากการป่วยเป็นวัณโรคเมื่อ 14 ปีก่อน ต่อมาติดเชื้อวัณโรคเทียมจากสิ่งแวดล้อม

เนื่องจากผู้ป่วยไอเป็นเลือดหลายครั้ง บางครั้งก็ปริมาณมาก และพยาธิสภาพของโรคนี้จำกัดอยู่ในปอดขวากลีบบนและกลีบกลาง การผ่าตัดเอาปอดขวากลีบบนและกลีบกลางออก จะช่วยป้องกันการไอเป็นเลือดซ้ำแล้วซ้ำอีก และช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อวัณโรคเทียมกระจายไปส่วนอื่นๆของปอด

ได้ทำการผ่าตัดเอาปอดขวากลีบบนและกลีบกลางออกด้วยการส่องกล้องวันที่ 5 สิงหาคม 2566

ได้ให้ยารักษาวัณโรคเทียม Mycobacterium abscessus ด้วยยากิน clarithromycin และยาฉีด amikacin, tigecycline ก่อนและหลังผ่าตัดระหว่างอยู่ในโรงพยาบาล 4-9 สิงหาคม เพื่อป้องกันวัณโรคเทียมแพร่กระจายไปส่วนอื่นในปอดระหว่างผ่าตัด

วันที่ 26 สิงหาคม ผู้ป่วยสบายดี ไม่มีไข้ ไม่ไอ ไม่เหนื่อย แผลผ่าตัดแห้งดี เอกซเรย์ปอดดีขึ้นมาก (ดูรูป) ผลเพาะเชื้อวัณโรคจากเนื้อปอด ขึ้นเชื้อวัณโรคเทียม Mycobacterium abscessus ไวต่อยา amikacin และ clarithromycin เนื่องจากได้ตัดปอดส่วนที่ติดเชื้อไปแล้ว จึงยังไม่ให้ยารักษาวัณโรคเทียมขณะนี้ ติดตามใกล้ชิดต่อไป อาจต้องให้ยาในภายหลัง