เจอบัญชีม้าเว็บพนันลูกน้อง"บิ๊กโจ๊ก" โยง 7 นักข่าว

 

     28 ก.ย.ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 (บก.น.5)  พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ  เปิดเผยหลังประชุมติดตามความคืบหน้า การขยายผลจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ ที่มีความเกี่ยวโยงไปกับลูกน้อง"บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ว่า ได้ประชุมเพื่อสรุปข้อมูลธุรกรรมการเงินของกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นบัญชีม้าซึ่งเชื่อมโยงไปถึงสื่อมวลชนทั้งหมด 7 คน กับ 1 สมาคมสื่อมวลชนในชื่อบุคคล

 

   เบื้องต้นพนักงานสอบสวนกำลังพิจารณาว่าจะออกหมายเรียกเพื่อสอบปากคำในฐานะพยานหรือไม่ ทั้งนี้ สื่อมวลชนแต่ละรายได้รับเงินไม่เท่ากัน มีตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่นบาท บางรายรับอย่างต่อเนื่องแบบรายเดือน บางรายรับเป็นครั้งๆ 

     พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า กรณีนายกสมาคมพนักงานสอบสวนเดินทางเข้ามาที่ บก.น.5 ตนยังไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่ แต่ก่อนหน้านี้ตนได้แจ้งประชาสัมพันธ์ไว้ว่า หากบุคคลใดที่เป็นบัญชีม้าในกลุ่มเว็บพนันนออนไลน์นี้มีด้วยกัน 2 บัญชีคือนายครรชิตและนายพุฒิพงษ์ ซึ่งมีการทำธุรกรรมเกี่ยวข้องกับบุคคลต่างๆจำนวนมาก

   และท่านใดที่มีการทำธุรกรรมเกี่ยวข้องกับ 2 บัญชีนี้  ให้มาแสดงความบริสุทธิ์ใจกับพนักงานสอบสวนได้ จนขณะนี้มาพบแล้วประมาณ 10 กว่าราย และชุดสืบสวนกำลังตรวจสอบเพื่อยืนยันว่าเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาในคดีนี้หรือไม่

   ส่วนประเด็นการขอหมายจับหรือหมายค้น ที่ไม่ได้ขอผ่านศาลอาญาทุจริตประพฤติมิชอบนั้น พล.ต.ท.ไตรรงค์ ยืนยันว่า ทางพนักงานสอบสวน ที่ไปขอหมายจับ เป็นความผิดเกี่ยวกับพนันออนไลน์และการฟอกเงิน  ซึ่งไม่ใช่ความผิดเกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่ราชการ ถึงแม้ว่าผู้กระทำความผิดจะเป็นข้าราชการ จากนั้นทางพนักงานสอบสวนก็ได้พิจารณาหลังได้มีการสอบสวนผู้ต้องหาและได้รับข้อมูลจากฝ่ายสืบสวน  

ซึ่งแน่นอนว่าหากพบว่ามีความผิดในตำแหน่งหน้าที่ราชการก็จะต้องเข้าไปสู่ศาลอาญาทุจริตประพฤติมิชอบ ส่วนตำรวจผู้ต้องหา 8 รายแรก ทางพนักงานสอบสวนกำลังพิจารณาว่าอาจจะเรียกมาสอบปากคำอีกครั้งหรือไม่

 

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ยืนยันว่าไม่รู้สึกกดดัน ไม่มีบุคคลใดโทรศัพท์เข้ามากดดัน ส่วนการที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตั้งให้นายอนันตชัย ไชยเดช เป็นทนายความสู้คดีนั้น ก็ไม่มีความกังวล เพราะปฏิบัติตามขั้นตอนทุกอย่าง 

ทั้งนี้ตำรวจยังคงเร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาอีก 6 รายที่ยังคงหลบหนี ซึ่งมีความผิดฐานฟอกเงินและเป็นบัญชีม้า