นาทีทูตไทยฝ่ายแรงงานกำลังรายงานเหตุ สัญญาณเตือนระเบิดดังกลางที่ประชุม

เมื่อวันที่ 8 ต.ค.66 เวลา  13.30 น. ที่ห้องประชุม ประสงค์ รณะนันท์ ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมการติดตามสถานการณ์ การให้ความช่วยเหลือและดูแลแรงงานไทยที่อยู่ในประเทศอิสราเอล ช่วงภาวะสงคราม โดยระหว่างประชุมมีสัญญาณดังขึ้น เป็นสัญญาณแจ้งเตือนเหตุระเบิด

 

 

โดยในระหว่างที่ นายกิตติ์ธนา ศรีสุริยะ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟรายงานสถานการณ์ในอิสราเอลผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์อยู่นั้น ได้เกิดเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นในระหว่างการประชุม ซึ่งนายกิตติ์ธนา แจ้งกับที่ประชุมว่าเป็นเสียงแจ้งเตือนว่า

ขณะนี้มีเหตุการณ์ระเบิดเกิดขึ้นอยู่ 

 

 

ด้านนายพิพัฒน์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า แรงงานไทย 8 รายที่ได้บาดเจ็บส่งตัวถึงโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อย ส่วนคนที่บาดเจ็บไม่มากส่วนใหญ่ส่งตัวอยู่ในแคมป์คนงานแล้ว ขณะที่แรงงานไทย 11 รายที่ถูกจับเป็นตัวประกันได้มีการประสานงานกับทางสถานทูตไทยในอิสราเอลอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้การช่วยเหลือ ดังนั้นแรงงานไทยทั้ง 19 ราย เจ้าหน้ากระทรวงแรงงาน ได้พบครอบครัวและญาติเพื่อแจ้งข้อมูลให้ทราบแล้ว  

เมื่อถามว่าจะมีแผนเยียวยาสำหรับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างไร นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานได้ไปเยี่ยมเยียนครอบครัวและญาติของแรงงานไทยทั้ง 8 รายเรียบร้อยแล้ว ในส่วนเยียวยาในลักษณะใดนั้น ต้องดูว่าแรงงานไทยอยู่ในประกันตนหรือไม่ โดยมอบหมายให้กรมจัดหางานและปลัดกระทรวงแรงงาน หามาตรการเยียวยาเบื้องต้น รวมทั้งต้องรอข้อมูลอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลอิสราเอลด้วยว่า จะได้เงินเยียวยาเท่าไร 

 

 

เมื่อถามถึงแรงงานไทยทั้ง 11 คนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน ได้ลงไปให้กำลังใจครอบครัวและญาติแล้ว แต่ก็ยังไม่ทราบว่า ถูกจับไว้ที่ไหนอย่างไร

เมื่อถามถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมเครื่องบินรับแรงงานไทย นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาบอิสราเอลได้ประกาศปิดน่านฟ้า แต่เมื่อไรรัฐบาลอิสราเอลประกาศเปิดน่านฟ้า และอนุญาตให้นำเครื่องบินไปรับได้ กองทัพอากาศก็พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพราะนายกฯได้สั่งการไว้แล้ว

เมื่อถามว่ามีแรงงานไทยแจ้งกลับประเทศหรือไม่ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ยังมีไม่มีคนแจ้งอยากจะกลับประเทศไทย แต่มีผู้แจ้งความจำนงจะขอทำงานในอิสราเอลต่อที่เดิม หากมีความจำเป็นต้องเดินทางกลับ ยืนยันว่ากระทรวงแรงงานจะประสานรัฐบาลอิสราเอลและบริษัทนายหน้าจัดหางานต่างๆ เมื่อเหตุการณ์สงบให้กลับไปทำงานในตำแหน่งเดิม 

พร้อมฝากถึงครอบครัว เมื่อติดต่อโทรศัพท์หรือติดต่อไม่ได้อย่าเพิ่งตกใจ เพราะการสื่อสารถูกตัดขาด บางพื้นที่ติดต่อได้ บางพื้นที่ติดต่อไม่ได้ เมื่อติดต่อได้เจ้าหน้าที่จะมีการประสานกลับมายังครอบครัว

เมื่อถามว่าผู้ที่ถูกจับเป็นตัวประกันเป็นแรงงานในด้านใด นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เป็นแรงงานด้านการเกษตรทั้งหมด ขณะนี้เรามีรายชื่อแล้ว แต่เพื่อป้องกันเกิดความสับสน จึงยังไม่แจ้งรายชื่อผู้บาดเจ็บและผู้ถูกจับเป็นตัวประกัน เกรงว่าจะเกิดความวุ่นวาย คาดว่าพรุ่งนี้จะแจ้งรายชื่อให้ชัดเจนอีกครั้ง ย้ำว่าเราต้องการตรวจสอบให้ชัดเจนและถูกต้องมากที่สุด

 

 

แรงงาน 11 คนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน เราได้ส่งเจ้าหน้าที่พบกับครอบครัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะมีการประสายงานอย่างใกล้ชิด ขอให้สบายใจได้ และรอให้ฟังข้อมูลจากทางการจะดีกว่า เพราะข่าวที่ออกมาในโซเชียลฯจริงก็ได้เท็จจริงก็ได้ แต่ขอให้รอ สถานเอกอัครราชทูตเป็นคนแจ้งแถลงมาผ่านกระทรวงต่างประเทศ และกระทรวงแรงงานจะแถลงข่าวให้ทราบ