โดนรวบคาลานจอดรถ สำนักงานเขตฯ เจ้าหน้าที่บุกจับเทศกิจ เขตดุสิต วัยใกล้เกษียณ เรียกรับเงินผู้ประกอบการแลกค่าดูแล


    กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)  ร่วมกันจับกุม นายสมพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี เทศกิจเขตดุสิตวัยใกล้ใกล้เกษียณ ดำเนินคดีในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบ       ด้วยหน้าที่ ตาม ป.อาญา มาตรา ๑๔๙ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด 

   จับคาสำนักงานเขตดุสิต "เทศกิจ"วัยใกล้เกษียณ ไถเงินผู้ประกอบการรายหัว

 

  หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตาม ป.อาญา มาตรา ๑๕๗”,“เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต,เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมที่จะรับ หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเอง

จับคาสำนักงานเขตดุสิต "เทศกิจ"วัยใกล้เกษียณ ไถเงินผู้ประกอบการรายหัว

   หรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบ หรือมิชอบด้วยหน้าที่ อันเป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๖๑ มาตรา ๑๗๒,๑๗๓”

 


สถานที่จับกุม ด้านล่างตึก บริเวณลานจอดรถ สำนักงานเขตดุสิต แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 

พฤติการณ์เทศกิจเขตดุสิตวัยใกล้ใกล้เกษียณ

สืบเนื่องจากกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(บก.ปปป.) ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย กรณี จนท.เทศกิจ เขตดุสิต ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เรียกรับเงินจากผู้เสียหายซึ่งเป็น


ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง ให้ จ่ายค่าคุ้มครองเพื่อแลกกับการไม่เข้าไปตรวจที่ไซต์งานพฤติการณ์ กล่าวคือ จนท.เทศกิจ เขตดุสิต เข้าไปที่ไซต์งานก่อสร้างของผู้เสียหาย เพื่อแจ้งให้ผู้เสียหายเข้าไปพบ กับ นายสมพงษ์ฯ ที่ สำนักงานสำนักงานเขต ดุสิต ฝ่ายเทศกิจ เมื่อวันที่ 22ก.ย.66ผู้เสียหายได้เข้าไปพบกับนายสมพงษ์ฯ ตามที่ได้นัดหมายเพื่อเจรจาให้ผู้เสียหายจ่ายค่าคุ้มครองแลกกับการไม่เข้าไปตรวจที่ไซต์งานเป็นจำนวนเงิน เดือนละ ๓,๐๐๐ บาท

จับคาสำนักงานเขตดุสิต "เทศกิจ"วัยใกล้เกษียณ ไถเงินผู้ประกอบการรายหัว

 

ต่อมาเมื่อวันที่ 6 ต.ค.66 นายสมพงษ์ฯ ได้โทรศัพท์มาตามให้ผู้ร้องเรียนเข้าไปพบเพื่อเจรจาสรุปยอดเงินค่าคุ้มครองแลกกับการไม่เข้าไปตรวจไซต์งาน ได้ข้อสรุปจาการเจรจาว่าให้จ่ายเงินเป็นรายปีระยะเวลารวม ๑๒ เดือน เป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น ๖,๐๐๐ บาท  และได้นัดหมาย ในวันอังคารที่  10ต.ค.66 ที่ ฝ่ายเทศกิจ อาคารอภิบาลดุสิต ชั้น 3 สำนักงานเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร

 


วันที่ 9ต.ค.66  เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป.พร้อมด้วย
เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. ผู้เสียหายนำเงินสดจำนวนทั้งสิ้น 6000บาท มาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ กก.๑ บก.ปปป. เพื่อเป็นพยานหลักฐาน


 วันที่ 10 ต.ค.66  เวลาประมาณ 10.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป.พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. ได้ร่วมกันวางแผนโดยให้ ผู้เสียหายนำเงินสดซึ่งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว นำมามอบให้ เจ้าหน้าที่เทศกิจ เขตดุสิต ที่ ด้านล่างตึก บริเวณลานจอดรถ สำนักงานเขตดุสิต แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร  

 

จับคาสำนักงานเขตดุสิต "เทศกิจ"วัยใกล้เกษียณ ไถเงินผู้ประกอบการรายหัว

  โดยมีเจ้าหน้าที่ฯเฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณโดยรอบและเมื่อผู้เสียหายได้ส่งมอบเงินแล้ว เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานเพื่อเข้าทำการตรวจค้น ขณะทำการตรวจค้น พบว่ามีเงินสดจำนวน ๖,๐๐๐ บาท บรรจุอยู่ภายในซองจดหมายสีขาว

 

ภายในครอบครองของเจ้าหน้าที่เทศกิจ เขตดุสิต เจ้าหน้าที่ฯจึงทำการตรวจสอบเงินสดต่อหน้าผู้ต้องหา พบว่าหมายเลขธนบัตรตรงกับหมายเลขธนบัตรที่ลงบันทึกประจำวันไว้จึงได้แจ้งพฤติการณ์และข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบ นำส่ง พงส.กก.๑ บก.ปปป. โดย พงส. บก.ปปป. จะได้สอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำส่งสำนวนให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาตามกฎหมายต่อไป จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา