ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ลุยต่อ จี้ ป.ป.ช.ชี้มูลนายกฯ ฝ่าจริยธรรม ปมตั้ง ผบ.ตร. พร้อมแย้มว่ามีโพยสั่งให้เลือกผบ.ตร.


    17 ต.ค.66  ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง เจ้าของฉายา ทนายกระดูกเหล็ก ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ หรือ ป.ป.ช. ให้ดำเนินการไต่สวน และมีความเห็นกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ได้แต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

 

   ตามพระราชบัญญัติตำรวจ พ.ศ.2565 และพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 219 หรือไม่

ทนายอนันต์ชัย แฉมีโพยสั่งให้เลือก ผบ.ตร. จี้ ป.ป.ช.ชี้มูลนายกฯ ฝ่าจริยธรรม


   โดยทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ได้เป็นประธานการประชุม ก.ตร. และได้เสนอชื่อ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ให้ที่ประชุมพิจารณาให้ความเห็นชอบ โดยใช้วิธีลงคะแนนอย่างเปิดเผย ปรากฏว่า ก.ตร. 9 ท่าน เห็นชอบตามที่นายเศรษฐา เสนอ

มีเพียงพลตำรวจเอก เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ไม่เห็นชอบ ส่วนนายเศรษฐา และนายประทิต สันติประภพ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ งดออกเสียง ซึ่งการแต่งตั้งดังกล่าวขัดต่อกฎหมาย และมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรง

   ตนจึงได้มายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ที่มีอำนาจไต่สวนข้อเท็จจริง และหาก ป.ป.ช. ชี้มูลว่ามีพฤติการณ์ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ก็ให้เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัย ให้พ้นจากตำแหน่ง หรือเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลาไม่เกิน 10 ปี ด้วยหรือไม่ก็ได้

ทนายอนันต์ชัย แฉมีโพยสั่งให้เลือก ผบ.ตร. จี้ ป.ป.ช.ชี้มูลนายกฯ ฝ่าจริยธรรม


  นอกจากนี้ทนายอนันต์ชัยยังได้ทิ้งท้ายว่าการเลือกผบ.ตร.ในวันดังกล่าวมีการเขียนโพยโดยระบุว่าให้เลือกคนนี้ ซึ่งตนได้มีการตรวจสอบเอกสารยืนยันซึ่งเป็นแชทไลน์ จริงเท็จหรือไม่จะต้องมีการตรวจสอบอีกครั้ง แต่ใครจะเป็นคนสั่งการตนไม่ทราบ นอกจากนี้ในวันดังกล่าวตนทราบว่ายังมีอดีตทนายความไปนั่งในการแต่งตั้งผบ.ตร.ด้วย ซึ่งไม่ควรไปนั่งในการประชุมดังกล่าวด้วย 

ทนายอนันต์ชัย แฉมีโพยสั่งให้เลือก ผบ.ตร. จี้ ป.ป.ช.ชี้มูลนายกฯ ฝ่าจริยธรรม

 

ในเบื้องต้นการเดินทางมายื่น ปปช.ในครั้งนี้ จะมีการกำกับไว้ว่าภายใน 3 เดือนจะต้องเร่งรัด และทุก 15 วันจะมีการทำหนังสือมาสอบถามว่าเรื่องมีความคืบหน้าอย่างไรเนื่องจากประชาชนทั้งประเทศให้ความสนใจและตนถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน