ประกาศราชกิจจาฯ ระเบียบ การให้บำเหน็จกรณีพิเศษ เจ็บ-ดับ จากการทำหน้าที่

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศ ระเบียบ ก.ร. ว่าด้วยการให้บำเหน็จความชอบเป็นกรณีพิเศษ พ.ศ. ๒๕๖๖ กรณีบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศ ระเบียบ ก.ร. ว่าด้วยการให้บำเหน็จความชอบเป็นกรณีพิเศษ พ.ศ. ๒๕๖๖ กรณีเสียชีวิตหรือบาดเจ็บแก่ข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ อันเป็นการเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน โดยมีรายละเอียดดังประกาศต่อไปนี้

 

ประกาศราชกิจจาฯ ระเบียบ การให้บำเหน็จกรณีพิเศษ เจ็บ-ดับ จากการทำหน้าที่

ประกาศราชกิจจาฯ ระเบียบ การให้บำเหน็จกรณีพิเศษ เจ็บ-ดับ จากการทำหน้าที่

 

ประกาศราชกิจจาฯ ระเบียบ การให้บำเหน็จกรณีพิเศษ เจ็บ-ดับ จากการทำหน้าที่

 

โดยที่สมควรกำหนดกรณีข้าราชการรัฐสภาสามัญถึงแก่ความตายเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการให้ได้รับการเสื่อนเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษ และกรณีข้าราชการรัฐสภาสามัญด้รับอันตรายเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการให้ได้รับเงินเพิ่มพิเศษ เพื่อประโยชน์ในการคำนวณบำเหน็จบำนาญและให้ได้รับสิทธิประโยชน์อื่น อันเป็นการเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติราชการ

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๒ (๓) และ (๔) และมาตรา ๖๐ แห่งพระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๕๔ ก.ร. จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า "ระเบียบ ก.ร. ว่าด้วยการให้บำเหน็จความชอบเป็นกรณีพิเศษ พ.ศ. ๒๕๖๖"

ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ให้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในรากิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ ๓ ในระเบียบนี้ 

"หัวหน้าส่วนราชการสังกัดรัฐสภา" หมายความว่า เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เลขาธิการวุฒิสภาหรือหัวหน้าส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่น

ข้อ ๔ การให้ข้าราชการรัฐสภาสามัญด้รับบำเหน็จความซอบเป็นกรณีพิเศษ ให้นำระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการให้บำเหน็จความชอบเป็นกรณีพิเศษ มาให้บังคับโดยอนุโลม เฉพาะที่ไม่ขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ทั้งนี้ ให้ "คณะกรรมการพิจารณาบำเหน็จความชอบ" ในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีตังกล่าว หมายถึง "ก.ร."

ข้อ ๕ เมื่อมีกรณีที่ข้าราชการรัฐสภาสามัญผู้ใดจะได้รับบำเหน็จความชอบเป็นกรณีพิเศษ ตามระเบียบนี้ ให้หัวหน้าส่วนราชการสังกัดรัฐสภาส่งเรื่องและเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ ก.ร. โดยไม่ชักช้า

ทั้งนี้ ไม่เกินหกสิบวันนับแต่วันที่มีกรณีนั้นเกิดขึ้น หรือในกรณีที่ต้องรอฟังผลคดีให้นับแต่วันที่รู้ผลแห่งคดีนั้น และให้ ก.ร. พิจารณให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และแจ้งผลการพิจารณาให้หัวหน้าส่วนราชการเมื่อหัวหน้าส่วนราชการสังกัดรัฐสภาได้รับแจ้งคำวินิจฉัยของ ก.ร. แล้ว ให้ดำเนินการให้เป็นไปตามผลการพิจารณานั้นภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง

ข้อ ๖ ในการพิจารณาเลื่อนเงินเดือน หรือให้ได้รับเงินเพิ่มพิเศษสำหรับการปราบปรามผู้กระทำความผิด (พ.ป.ผ.) สำหรับปีงบประมาณใด ถ้าปรากฏว่า ผู้ที่จะได้รับการพิจารณาเป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสียหรือบกพร่องในหน้าที่ในปีงบประมาณนั้น หัวหน้าส่วนราชการสังกัดรัฐสภาอาจเสนอให้ ก.ร. พิจารณาให้ลดหรืองดการเลื่อนเงินเดือนหรือ พ.ป.ผ. สำหรับผู้นั้นได้ตามควรแก่กรณี

ข้อ ๗ " ข้าราชการรัฐสภาสามัญผู้ใดมีเหตุที่ จะได้รับการพิจารณาให้บำเหน็จความชอบตามระเบียบนี้ แม้เหตุนั้นจะเกิดขึ้นก่อนวันที่ระเบียบนี้มีผลให้บังคับ แต่ไม่ก่อนปีงบประมาณที่ระเบียบนี้มีผลให้บังคับ ให้ข้าราชการรัฐสภาสามัญผู้นั้นมีสิทธิได้รับการพิจารณาให้บำเหน็จความชอบตามระเบียบนี้เว้นแต่จะได้รับการพิจารณาความตีความชอบกรณีพิเศษหรือบำเหน็จความชอบตามระเบียบ ข้อบังคับหรือคำสั่งอื่นใดไปแล้ว

ข้อ  ๘ ให้ ก.ร. มีอำนาจตีความและวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้

ข้อ ๔ ให้ประธาน ก.ร. รักษาการตามระเบียบนี้

ประกาศ ณ วันที่ ๒๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๖

วันมูหะมัตนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ประธาน ก.ร.