เส้นผมน้องชมพู่มีสองบั้ง ตำรวจ เล่าความพยายามลุงพล ความเชื่อทางไสยศาสตร์

คลี่ปมคดีน้องชมพู่ ตำรวจอธิบาย คนร้ายน่าจะมีความเชื่อทางไสยศาสตร์ ตัดผมน้องไปกระจุกหนึ่ง พร้อมกับตรวจพบในที่เกิดเหตุ อีก16 เส้น


 หลังจากที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร พิพากษาตัดสิน คดีน้องชมพู่ ไปเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.66 โดยได้สั่งจำคุก"ลุงพล"นายไชย์พล วิภา 20 ปี ส่วน "ป้าแต๋น"น.ส.สมพร  หลาบโพธิ์ ศาลให้ยกฟ้อง  หลังจากที่ทาง นายอนามัย วงศ์ศรีชา และ นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา พ่อ-แม่ของน้องชมพู่ และอัยการจังหวัดมุกดาหาร ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง"ลุงพล"นายไชย์พล วิภา จำเลยที่ 1 "ป้าแต๋น"  น.ส.สมพร หลาบโพธิ์ จำเลยที่ 2  
 

  ความคืบหน้าล่าสุดคดีน้องชมพู่ วันที่ 21ธ.ค.66 ในรายการโหนกระแส ได้มีการเชิญตำรวจสอบสวนกลาง มาอธิบายเกี่ยวกับเรื่องราวของการสืบสวน หลักฐานสำคัญมัดตัวคนร้าย โดย เจ้าหน้าที่ตำรวจ เผยว่า  คนร้ายน่าจะมีความเชื่อทางไสยศาสตร์ จึงตัดผมน้องชมพู่ไปกระจุกหนึ่ง และตรวจพบในที่เกิดเหตุ 16 เส้น หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไปค้นตามสถานที่ต้องสงสัยคือในรถลุงพล ผลตรวจพบเป็นเส้นผมที่ถูกตัดด้วยของมีคม ชนิดเดียวกัน และตัดออกมาพร้อมกัน

เส้นผมน้องชมพู่มีสองบั้ง ตำรวจ เล่าความพยายามลุงพล ความเชื่อทางไสยศาสตร์

 

และนอกจากหน้าตัด พบว่าในที่เกิดเหตุ เส้นผมน้องชมพู่มีสองบั้ง คือพยายามตัดรอบแรก แต่ไม่ขาด เลยตัดอีกที และผมน้องในรถลุงพลก็มีรอยบั้งเช่นกัน ตำรวจจึงเชื่อว่าลุงพลคือคนตัดผมของน้องชมพู่

เส้นผมน้องชมพู่มีสองบั้ง ตำรวจ เล่าความพยายามลุงพล ความเชื่อทางไสยศาสตร์
 


ก่อนหน้านี้ทาง  พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. หนึ่งในคณะทำงานชุดคลี่คลายคดีน้องชมพู่ เปิดเผยว่าก่อนอื่นต้องขอบคุณศาลที่ตัดสินด้วยความเป็นธรรม และขอให้เครดิต พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีตผบ.ตร. ที่ให้ความสนใจและลงมาติดตามคดีด้วยตนเอง พร้อมทั้งระดมกำลังชุดสืบสวนจากทั่วประเทศมากฝีมือมาอยู่ที่บ้านกกกอก 

เส้นผมน้องชมพู่มีสองบั้ง ตำรวจ เล่าความพยายามลุงพล ความเชื่อทางไสยศาสตร์


ยืนยันว่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมากระบวนการทำงานของตำรวจชุดสืบสวนนั้นไม่ได้มุ่งเป้าไปที่บุคคลบุคคลใดบุคคลหนึ่งว่าเป็นผู้กระทำความผิด แต่ยึดจากพยานหลักฐานที่พบเจอเป็นจุดสำคัญจนนำไปสู่การเจอตัวผู้กระทำผิด ซึ่งสามารถสรุปสาระสำคัญที่เป็นพยานหลักฐานสำคัญ 8 ข้อดังนี้

 

1.เส้นทางที่ยากลำบากเกินความสามารถของน้องชมพู่ มีเนินชันมากกว่า 60 องศา ขวางกั้นในทุกเส้นทาง


2.พลังงานจากอาหารมื้อสุดท้ายที่น้องชมพู่รับประทานไปไม่เพียงพอต่อการเดินไปบนจุดพบศพ


3.ประสบการณ์ชาวบ้านยืนยันว่าเด็ก 3 ขวบ จะปีนป่ายไปถึงได้แค่ชั้นที่ 2 ของภูเหล็กไฟเท่านั้น


4.กรณีศึกษาการหลงป่า ของ ชาวบ้านกกตูมชาวบ้านสามารถหาได้เจอภายในคืนเดียว


5.แพทย์ผู้ชันสูตรและกุมารแพทย์ ยืนยืนว่า พัฒนาการของเด็กอายุ 3 ขวบ ไม่สามารถที่จะเดินขึ้นไปเองได้

เส้นผมน้องชมพู่มีสองบั้ง ตำรวจ เล่าความพยายามลุงพล ความเชื่อทางไสยศาสตร์


6.สภาพศพที่เปลือยกาย ซึ่งบิดาและมารดาของน้องชมพู่ยืนยันว่าน้องชมพูไม่สามารถถอดเสื้อเองได้


7.พยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ที่ตรวจพบเส้นผมน้องชมพู่ถูกตัดด้วยมีด เชื่อได้ว่าเป็นการกระทำของบุคคลอื่น


8.นิสัยส่วนตัวของน้องชมพู่ กลัวที่สูง และกลัวป่า ที่ผ่านมาของน้องชมไม่เคยไปในป่าหลังบ้านเลยสักครั้ง