ทะเลอันดามันคลื่นลมแรง วันเดียว เรือนักท่องเที่ยวประสบเหตุ 3 ราย ภาคประชาชน-ทัพเรือภาคที่ 3-ศรชล.ภาค 3 ร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายทางทะเล ระดมกำลังเร่งค้นหา 2 นักท่องเที่ยวที่สูญหาย จากเหตุเรือนำเที่ยวดำน้ำ "สวรรค์ทัวร์" จม ฝั่งอ่าวไทย ก็มีเหตุเรือล่มเช่นกัน


24 ธันวาคม 2566 พลเรือตรี วีรุดม  ม่วงจีน  โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์คลื่นลมแรงในพื้นที่ ฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ส่งผลให้เรือนำเที่ยวประสบอุบัติเหตุจมในทะเล หลายเหตุการณ์ โดยในส่วนของพื้นที่รับผิดชอบของ ทัพเรือภาคที่ 3   ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 วานนี้ (23 ธันวาคม 2566 )ได้รับแจ้ง 3 เหตุการณ์

วันเดียวเรือนักท่องเที่ยว ประสบเหตุ 3ราย เตือนคลื่นลมแรง เร่งหา 2ผู้สูญหาย

 โดยเหตุการณ์แรก เกิดขึ้นในช่วงเช้า เมื่อเวลา 09.00 เรือนำเที่ยวนักดำน้ำ "สวรรค์ทัวร์" ประสบอุบัติเหตุ จมจากคลื่นลมแรง ในพื้นที่ ห่างจากอุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะสุรินทร์ ไปทางทิศใต้ประมาณ 4 ไมล์ทะเล โดยเรือดังกล่าวได้นำนักท่องเที่ยว ดำน้ำ จำนวน 14 คน ออกจากท่าเรือทับละมุ เพื่อไปดำน้ำในบริเวณดังกล่าว

วันเดียวเรือนักท่องเที่ยว ประสบเหตุ 3ราย เตือนคลื่นลมแรง เร่งหา 2ผู้สูญหาย

โดยเรือพรสุปราณี 9 ซึ่งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง ได้ให้การช่วยเหลือนำนักท่องเที่ยว และลูกเรือ 12 คน ที่ประสบอุบัติเหตุ นำขึ้นมาบนเรือ และขึ้นฝั่งท่าเรือคุระบุรี จังหวัดพังงา ได้อย่างปลอดภัย

แต่ยังคงมีนักท่องเที่ยวสูญหาย อีก 2 คน  คือนาง MILLICENT MARGARET AMNDA JANE อายุ 56 ปีสัญชาติ อังกฤษ และลูกเรือชาวไทย ชื่อนางสำเนียง  ไทยชนะ อายุ 60 ปี  

 

โดยขณะนี้ หน่วยต่างๆทุกภาคส่วนของ ศรชล. และเครือข่ายทางทะเลในพื้นที่จังหวัดพังงา ทำการค้นหาผู้สูญหายทั้งสองคน โดยในส่วนของทัพเรือภาคที่ 3 ได้จัดเรือตรวจการณ์ 995 และอากาศยาน ร่วมในการค้นหาผู้สูญหายอย่างเร่งด่วน

วันเดียวเรือนักท่องเที่ยว ประสบเหตุ 3ราย เตือนคลื่นลมแรง เร่งหา 2ผู้สูญหาย

 ในส่วนของเหตุการณ์ที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.30 น. ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ว่าเกิดเหตุเรือหางยาวนำเที่ยวชื่อมุกคะมีนา ซึ่งนำนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียจำนวน 4 คน และมัคคุเทศก์ชาวไทย 1 คน โดยเรือประสบอุบัติเหตุ ล่ม เนื่องจากลมกรรโชกแรง บริเวณ หน้าเขาทะลุ โดยผู้โดยสาร และลูกเรือ ลอยคออยู่ในทะเล และได้รับการช่วยเหลือ จากเจ้าหน้าที่อุทยานได้อย่างปลอดภัย 



     สำหรับเหตุการณ์ที่ 3 ของวันนี้ ศูนย์ปฏิบัติการ ศรชล.ภาค 3 ได้รับแจ้งว่า เรือนอร์ติก้า ซึ่งเป็นเรือนำเที่ยวนักดำน้ำ ขนาดเล็ก มีนักท่องเที่ยว 3 คน ประสบอุบัติเหตุ น้ำเข้าเรือ ขณะเรือ กำลังเดินทางอยู่ บริเวณทางทิศตะวันตกของเกาะเขียวจังหวัดภูเก็ต ในการนี้ทัพเรือภาคที่ 3 จึงได้สั่งการให้เรือ ตรวจการณ์ 111 ออกเรือ ไปให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนท่ามกลางคลื่นลมที่ยังคงแรง โดยในเวลา 18:00 น. เรือ ต. 111 ได้เข้าถึงที่หมาย และนำเรือยางลงเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย

วันเดียวเรือนักท่องเที่ยว ประสบเหตุ 3ราย เตือนคลื่นลมแรง เร่งหา 2ผู้สูญหาย

โดยสามารถให้การช่วยเหลือขึ้นเรือใหญ่ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่า ผู้ประสบภัยเพศหญิง มีโรคประจำตัวคือความดันและโรคหัวใจ มีอาการอ่อนล้า ช็อคและหวาดกลัว ส่วนผู้ประสบภัยเพศชาย มีเพียงอาการอ่อนล้า โดยขณะนี้เรือ ต.111 ได้อยู่ในระหว่างการเดินทางนำ ผู้ประสบภัยทั้ง 3 ราย  เดินทางกลับมายังท่าเรือน้ำลึกจังหวัดภูเก็ต ต่อไป

นอกจากด้านทะเลอันดามัน ทางด้านอ่าวไทย ในวันเดียวกัน ( 23 ธันวาคม 2566 ) เวลาประมาณ 17.00 น. ก็ได้เกิดเหตุ เรือรับนักท่องเที่ยว พัทยา-เกาะล้าน ประสบเหตุล่มในระยะ 3 ไมล์ จากเกาะล้าน  เนื่องจากคลื่นลมแรง เช่นกัน  ผูัประสบภัยทั้งหมด 25 คน ปลอดภัย โดยได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าท่าพัทยา กู้ภัยฯ และหน่วยเกี่ยวข้อง

วันเดียวเรือนักท่องเที่ยว ประสบเหตุ 3ราย เตือนคลื่นลมแรง เร่งหา 2ผู้สูญหาย

   โฆษกกองทัพเรือกล่าวว่าในขณะนี้พื้นที่อ่าวไทยและฝั่งทะเลอันดามัน คลื่นลมมีกำลังแรง ขอให้เรือประมง และเรือบริการนักท่องเที่ยว มีความระมัดระวังและตรวจสอบ การรายงานสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด และจากการให้การช่วยเหลือ ทั้ง 3 เหตุการณ์ด้านทะเลอันดามัน ในวันนี้  นับเป็นความร่วมมือของภาคประชาชน  และเครือข่ายหน่วยงานทางทะเลในพื้นที่ รวมถึง กองทัพเรือซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานหลักของ ศรชล.  ที่ได้ร่วมกันบูรณาการในทุกภาคส่วนในการเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที  

วันเดียวเรือนักท่องเที่ยว ประสบเหตุ 3ราย เตือนคลื่นลมแรง เร่งหา 2ผู้สูญหาย

  โดยในส่วนของกองทัพเรือ ถือเป็นนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือด้านยุทธการ ในการประสานงานร่วมกันระหว่างกองทัพเรือ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรกองทัพเรือ อย่างเป็นรูปธรรม อันจะส่งผลต่อการดำเนินการในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลรวมถึงการให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในยามเกิดภัยพิบัติหรืออุบัติภัยต่างๆได้  อย่างทันท่วงที  โดยสามารถแจ้งเหตุและขอรับการช่วยเหลือได้ที่ สายด่วนศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ  หมายเลขโทรศัพท์ 1696 และ สายด่วนศรชล. หมายเลขโทรศัพท์  1465  และตลอด 24 ชั่วโมง