สำนักโภชนาการ ตอบชัด อย่าหลงเชื่อ 5 สารเคมีอันตรายในน้ำยาปรับผ้านุ่ม 

สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจง หลังมีข้อมูลออกมาว่า ภัยร้ายที่มาพร้อมกับความหอม 5 สารเคมีอันตรายในน้ำยาปรับผ้านุ่ม 

มีการเตือนบนสื่อออนไลน์เรื่องภัยร้ายที่มาพร้อมกับความหอม 5 สารเคมีอันตรายในน้ำยาปรับผ้านุ่ม ทางสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า

น้ำยาปรับผ้านุ่มไม่ได้มีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างที่กล่าวอ้าง โดยน้ำยาปรับผ้านุ่มนั้นประกอบด้วยสารเคมี 2 ส่วนที่สำคัญ ได้แก่

1.สารที่ทำให้ผ้านุ่มเป็นกรดไขมันที่มาจากสัตว์ ซึ่งไม่ก่อให้อันตราย เมื่อกรดไขมันจับกับผ้า ทำให้ไฟฟ้าสถิตระหว่างเส้นใยลดลงส่งผลให้ผ้าไม่แข็งแล้วทำให้เกิดความนุ่ม

2.สารที่ทำให้มีกลิ่นหอมติดทนนาน ในบทความกล่าวถึง สารเคมี 5 ชนิด ได้แก่ สารเอทิลอะซีเตท สารคลอโรฟอร์ม สารเบนซิลแอลกอฮอล์ สารเบนซิลอะชีเตท และมัสไซลีนซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่เลียนแบบกลิ่นจากกวาง ในปี ค.ศ. 1990 พบว่าเป็นสารก่อมะเร็ง จึงลดจำนวนการผลิตลง ปัจจุบันแทบไม่มีการผลิตสารดังที่กล่าวมาแล้ว อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันไม่ปรากฏการใช้สารตั้งต้นจากคลอโรฟอร์ม และเบนซิลแอลกอฮอส์ในน้ำยาปรับผ้านุ่มแล้ว และใช้เฉพาะหัวน้ำหอมที่บริสุทธิ์เท่านั้น

ทั้งนี้ สารที่ยังใช้เป็นส่วนประกอบในน้ำยาปรับผ้านุ่มคือสารเบนซิลอะซีเตท และเอพิลอะซีเตทนั้นเป็นสารที่ให้กลิ่นหอมในกลุ่มเอสเทอร์ ซึ่งสารนี้ไม่มีพิษเพราะน้ำยาปรับผ้านุ่มมีส่วนทำให้เกิดสารเคมีตกค้างในผ้าได้ แต่มีปริมาณน้อยมาก ๆ การสวมใส่เสื้อผ้า จึงไม่สามารถทำให้สารเคมีซึมเข้าสู่เลือด จนส่งผลต่อฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกายได้ แต่อาจจะทำให้เกิดผื่นแพ้ที่ผิวหนังในบางรายที่แพ้น้ำยาปรับผ้านุ่มได้

สำนักโภชนาการ ตอบชัด อย่าหลงเชื่อ 5 สารเคมีอันตรายในน้ำยาปรับผ้านุ่ม 

Cr.ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม