รวบ “ท้าวลิตา” คนดัง เจอเต็ม ๆ ผู้เสียหายกว่า 40 ราย

ตำรวจสืบนครบาล นำกำลังจับกุมตัว “ท้าวลิตา” หลอกให้ออมเงินออมทอง เสนอให้ดอกเบี้ยสูงมาก มีผู้เสียหายกว่า 40 ราย

ตำรวจสืบนครบาล นำกำลังจับกุมตัว นางสาวลิตา รอดพันธุ์ อายุ 27 ปี ได้ที่บริเวณลานจอดรถ หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในตำบลโพสะ อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง หลังชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาล ได้ตรวจสอบพบการกระทำความผิดในลักษณะท้าวแชร์ทางออนไลน์ หลอกให้ร่วมลงทุน ให้ผลตอบแทนสูงมาก มีผู้เสียหายหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก ร่วมลงทุนเสียหายหลายล้าน โดยบุคคลดังกล่าวใช้ชื่อเฟซ "Lita Rodphan" โพสต์เชิญชวน ตรวจสอบพบว่ามีหมายจับติดตัว 4 หมายจับ ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน / และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ” ก่อนจะหลบหนีไป 

รวบ “ท้าวลิตา” คนดัง เจอเต็ม ๆ ผู้เสียหายกว่า 40 ราย

 

สืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2564 ขณะที่ผู้เสียหายกำลังพักผ่อน และเล่นเฟซบุ๊กอยู่ที่บ้านพัก ได้เห็นนางสาวลิตา ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "Lita Rodphan" ได้โพสต์เชิญชวนบุคคลทั่วไปที่อยู่ในกลุ่มเฟซบุ๊กให้ร่วมลงทุนออมเงินออมทอง โดยใช้ชื่อทุนว่า “บ้านออมลิตา V.3 นายทุนราย 4 วัน” ถ้าหากลงทุน 1 แสนบาท จะได้รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยคืนเป็นเงินจำนวน 137,000 บาท ทุกวัน จำนวน 4 วัน โดยแบ่งจ่ายวันละ 34,250 บาท โดยรับดอกเบี้ยคืนในวันรุ่งขึ้นของอีกวัน ต่อมาผู้เสียหายสนใจ จึงร่วมลงทุนกับนางสาวลิตา จึงโอนเงินจำนวน 1 แสนบาท เข้าบัญชีธนาคารของนางสาว ลิตา โดยโอนผ่านแอปธนาคาร หลังจากโอนเงินไปแล้ว  ผู้เสียหายได้แจ้งให้นางสาวลิตา ทราบ

จากนั้นนางสาวลิตา บอกว่าจะโอนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยให้กับผู้เสียหาย 4 วัน วันละ 34,250 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 137,000 บาท ต่อมาผู้เสียหายได้ร่วมลงทุนกับนางสาวลิตา อีก และเมื่อถึงกำหนดนัดหมายคืนเงินที่ผู้เสียหายลงทุน นางสาวลิตา ไม่ยอมคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยคืน ผู้เสียหายพยายามติดตามทวงถาม แต่ได้รับการผัดผ่อนเรื่อยมา และได้รับแจ้งว่าไม่มีเงินจ่ายคืนให้ ก่อนจะติดต่อไม่ได้ ผู้เสียหายจึงแจ้งความที่ สน.มีนบุรี ก่อนที่ตำรวจสืบนครบาลจะตามแกะรอยนานกว่า 1 ปี จนจับกุมตัวได้ในที่สุด

รวบ “ท้าวลิตา” คนดัง เจอเต็ม ๆ ผู้เสียหายกว่า 40 ราย

สอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับว่า ตนเองได้เปิดบ้านวงแชร์ออมเงินออมทองจริง และไม่ได้คืนเงินให้กับผู้เสียหาย แต่อ้างว่าได้นำเงินไปลงทุนกับท้าวแชร์อีกเจ้า ที่บอกให้ตนเองไปหาลูกค้ามา และยังบอกว่า ตอนนี้กำลังขายทรัพย์สินเพื่อนำเงินไปคืนกับผู้เสียหาย แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เพราะก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาเคยไปทำงานเป็นแอดมินเว็บพนันในประเทศเพื่อนบ้าน ปัจจุบันหันมาประกอบอาชีพขายของออนไลน์ 

ทั้งนี้ พลตำรวจตรี ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ขอฝากเตือนว่า โลกปัจจุบันที่ประชาชนเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้น จึงมีมิจฉาชีพหลอกลวงประชาชนผ่านการเล่นแชร์ออนไลน์ โดยจะโฆษณาชักชวน ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยมิจฉาชีพจะอ้างว่าได้ผลกำไรสูง ในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งมิจฉาชีพมักจะทำให้ตายใจด้วยการจ่ายผลตอบแทนตามที่โฆษณาไว้ เพื่อหลอกให้ลงทุนสูงขึ้น และบางคนถึงขั้นไปชักชวนญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูงมาร่วมลงทุนอีกด้วย แต่สุดท้าย มิจฉาชีพมักจะอ้างว่าธุรกิจขาดทุน มีปัญหา จึงส่งเงินไม่ได้ตามปกติ พร้อมทั้งบอกกับผู้เสียหายว่า อย่าเพิ่งแจ้งความ ก่อนจะขาดการติดต่อ และหลบหนีไปในที่สุด

เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน / และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ” ก่อนนำตัวส่ง สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินคดีต่อไป

รวบ “ท้าวลิตา” คนดัง เจอเต็ม ๆ ผู้เสียหายกว่า 40 ราย