"ทนายธรรมราช" ลั่นล่าสุด ปมเพศสภาพ ไพรวัลย์ ตอนจบมีสะเทือนถึง กรรชัย

จากกรณี ทนายธรรมราช ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึง แพรรี่ โดยมีการระบุถึงเรื่องเพศสภาพ จนถูกวิจารณ์อย่างหนัก ตามที่ได้รายงานข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น 

(อ่านข่าว โซเชียลเมนต์สนั่น หลังเห็น "ทนายธรรมราช" โพสต์เดือดถึงแพรรี่ งานนี้จบยาก)

ล่าสุดเจ้าตัวนั้นได้ออกมาโพสต์ข้อความ พร้อมคลิป ชี้แจงดังนี้ 

 

ด้วยเพศทางเลือก​นั้น

หากชายใดใคร่ออยากแต่งหญิงก็แต่งได้

ชายใดใคร่อยากมีผัวก็เป็นสิทธิที่ทำได้

ผมไม่เคยไปก้าวล่วงมันเป็นสิทธิของแต่ละท่าน​ ตามแต่ใจจะปราถนา​ กฎหมายไม่ได้ห้ามไว้

แต่สิ่งที่ผมตั้งคำถามคือผมตั้งคำถามกับนายไพรวัลย์​ เพียงคนเดียวเท่านั้น​ ไม่เกี่ยวใดๆกับท่านอื่นเลยและไม่มีจุดประสงค์หรือเจตนาไม่ดูถูกเพศสภาพของใคร

เนื่องด้วยนายไพรวัลย์มักจะพูดเสมอๆว่าตนเองเป็นมหาเปรียญ​ ๙ ประโยคบวชมา​ ๑๘​ ปี​ ผมจึงมีคำถามว่าทำไมคนที่เคยบวชมานานขนาดนี้เมื่อสึกออกมาแล้วถึงมาใส่วิกแต่งหญิงได้​

คนส่วนใหญ่ก็อยากรู้เช่นเดียวกันว่าตอนที่นายไพรวัลย์บวชเขาไปเรียนวิชาอะไรมา​ ทำไมเมื่อสึกมาไม่นานก็ออกอาการแต่งหญิงแล้ว​ จะไม่ให้สงสัยได้อย่างไร​

การบวชคือการเรียนรู้ข้อธรรมะ​ ทาน​ ศีล​ ภาวนา​ เพื่อขลัดเกลาลดละกิเลส​ตน ก็เกิดคำถามขึ้นมาอีกว่า​ ตกลงแล้วที่บวชมา ๑๘ ปี​นายไพรวัลย์ขลัดเกลาลดละกิเลสอะไรได้บ้าง​ ก็อีกนั่นแหละคำถามเดิม​ ทำไมถึงแสดงอาการอยากเป็นผู้หญิงขึ้นมาหลังสึกไม่นาน​

ในประเทศไทย พระสงฆ์ที่ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นมหาเปรียญ 9 ประโยค มีเยอะแยะมากมาย มีวัตรปฎิบัติอันงดงาม น่าเลื่อมใสศรัทธา​ เป็นหลักเป็นชัย เป็นผู้นำทางจิตวิญาณให้พุทธศาสนิกชนได้เคารพกราบไหว้​ ​ได้อย่างสนิทใจ​ เราควรให้ความเคารพและเกรงใจในพระสงฆ์ที่ท่านมีความงดงามในศีลตรงจุดนี้ด้วย

ด้วยเหตุนี้​ ผมในฐานะพุทธศาสนิกชนคนไทย​คนนึงหากนายไพรวัลย์​ ไม่เรียกตนเองว่าเป็น​ มิสเปรียญ​ ๙ หรือยกคุณวุฒิเปรียญ​ ๙ ของตนขึ้นอ้าง​ แล้วแต่งตัวเป็นหญิงไปวิพากษ์วิจารณ์ท่านอื่น​ โดยที่ตนมิได้เป็นผู้มีส่วนได้เสียในเรื่องนั้นๆ​ ผมคนนึงจะไม่เอ๋ยแม้แต่ชื่อเขาเลยให้เสียเวลา​

ที่มาชี้แจงนี้เพราะไม่อยากให้สื่อโยงเรื่องราวไปถึงท่านที่รักในการแสดงออกทางเพศที่หลากหลายท่านอื่นซึ่งผมไม่เคยไปก้าวล่วงสิทธิของท่านเหล่านั้นเลย​ ผมพูดถึงนายไพรวัลย์คนเดียวเกี่ยวกับเรื่องนี้

ผิดถูกอย่างไรขออภัยมา​ ณ​ ที่นี้นะครับ

และขอเรียกร้องให้หนุ่มกรรชัยออกมาแสดงความรับผิดชอบที่ไปกล่าวหาอ.น้องว่าอ้างตนเองเป็นพระพุทธเจ้าซึ่งมันไม่จริง​

ทั้งนี้การกระทำของรายการโหนกระแสโดยหนุ่มกรรชัย​ อาจเข้าข่ายความผิดตาม​ ​พรบ. การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 มาตรา​ 37 มีโทษถึงถอดใบอนุญาติ​

อีกทั้ง​ พรบ.คุ้มครองเด็ก​ พ.ศ.​ 2546 มาตรา​ 27, 79 มีโทษจำคุกไม่เกิน​ 6 เดือนปรับไม่เกินหกหมื่น​ หรือทั้งจำทั้งปรับ