ยิ่งขุดยิ่งเจอ แผ่นจารึก-ฐานพระสลักอักษร ใต้น้ำโขง ถอดความระบุปีชัดเจน

สปป.ลาว ขุดเจอเพิ่ม "แผ่นจารึก-ฐานพระสลักอักษร" ใต้แม่น้ำโขง ผู้เชี่ยวชาญถอดข้อความ รู้ พ.ศ.บอกยุคสมัยชัดเจน

จากกรณีเมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2567 ที่มีการขุดพบ พระพุทธรูปที่สปป.ลาว พร้อมกับวัตถุุโบราณหลายชิ้น ซึ่งยังคงสภาพสมบูรณ์งดงาม ภายในหาดทรายกลางแม่น้ำโขง ฝั่งเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ตรงกันข้ามกับ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่งคาดว่าเป็นพระพุทธรูปโบราณมีอายุมากกว่า 500 ปี

 

ยิ่งขุดยิ่งเจอ แผ่นจารึก-ฐานพระสลักอักษร จมแม่น้ำโขง ถอดความระบุปีชัดเจน

ซึ่งการขุดพบโบราณวัตถุดังกล่าว สร้างความฮือฮาให้ในโลกโซเชียลทั้งฝั่ง สปป.ลาว และทางฝั่งไทย มีการตั้งข้อสังเกตถึงพระพุทธรูปที่ขุดพบว่าเป็นของเก่าหรือของใหม่ เนื่องจากมีสภาพสมบูรณ์และสวยงามมาก ทั้งที่จมอยู่ใต้แม่น้ำ ซึ่งมีนักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายออกมาวิเคราะห์แสดงความคิดเห็นจนดราม่าโต้เถียงกันอย่างดุเดือด


ซึ่งการขุดค้นหาโบราณวัตถุยังคงดำเนินต่อไป และมีการค้นพบพระพุทธรูปเพิ่มเติมอีกหลายองค์ โดยล่าสุดวันที่ 19 พ.ค. 2567 เพจเฟซบุ๊ก ขัตติยะบารมี ขัตติยะ พระคุณเจ้าที่อยู่ในทีมค้นหาโบราณวัตถุ ได้โพสต์ภาพแจ้งว่ามีการพบจารึกแผ่นใหญ่ และพระพุทธรูปที่มีการสลักข้อความไว้ที่ฐาน

 

ยิ่งขุดยิ่งเจอ แผ่นจารึก-ฐานพระสลักอักษร จมแม่น้ำโขง ถอดความระบุปีชัดเจน


โดย รองศาสตราจารย์ ดร.ชัยยศ พิรักษ์ อาจารย์ประจำสาขาวิศวกรรมโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ได้ออกมาถอดข้อความจากแผ่นจารึกที่สลักข้อความ ฃระบุว่า


"สักกะ 1122 ตัว (พ.ศ. 2303) ปีกัดเหม้า เดือน 7 (เดือนเมษายน) สัทธาพระสงฆ์สังฆะเจ้าชุต๋นมีครูบาหลวงวัดสันทับหลาก วัดสังก๋าบุญ พร้อมกับ วัดคำแท่นปราสาท วัดต้องภันลานขาวสายนาย วัดบ้านไธยโสธิสอนชัย วัดคำกล๋างบ้าน วัดคว้างชุม วัดไพคำฝนเดื่อปากชน ได้อนัท(อาณัติ) พร้อมเสี้ยงกับด้วยกั๋นทังภายในภายนอกสัทธาทายะกะในเวียงเมืองเชียงแสนชุคนและมหาอุปราชโมยหว่าน นาข้ามอโรเจ้าคาม นาท่านพระยาราชเส พละกำลังชุคน ได้อุบปพาธะ(อุปัฏฐาก) ส้างยัง..เจ๋ติยะธาตุเจ้า ธุ(พระ)ต๋นบนวัดป่า 3 ต๋นชื่อว่า ทิพมละ วัดคำสักคับปล๋า…ไว้จุยามแก่พระสัพพัญญู 62 อรหันต๋านัง 24 โมคคัลลาน สันนิษฐานว่าเป็นการกระทำบุญครั้งใหญ่ของเวียงเมืองเชียงแสนในอดีต อาจจะเป็นการบูรณะวัด หรือ หล่อสร้างพระเจ้า"

 

ยิ่งขุดยิ่งเจอ แผ่นจารึก-ฐานพระสลักอักษร จมแม่น้ำโขง ถอดความระบุปีชัดเจน

ขณะที่ อาจารย์อภิชิต ศิริชัย นักประวัติศาสตร์เชียงราย นักประวัติศาสตร์เชียงราย ได้แปลข้อความที่บริเวณฐานพระที่ได้จากบริเวณดังกล่าว ระบุว่า "จารึกที่พบฝั่งลาว สกราช 1122 ตัวปีกัดเหม้า (พ.ศ.2303) ยุคพม่า #วัดฅำกลางบ้าน (วัดเจดีย์หลวง ปัจจุบัน) #วัดคว้าง #วัดสังกา ฯลฯ ชื่อวัดในเมืองเชียงแสนทั้งสิ้น !!! ลงมาอีก 2 บรรทัด #สัทธาทายกในเวียงเมืองเชียงแสนชู่คน ครับ #มรดกเชียงแสน"


สำหรับข้อความที่ถูกสลักเอาไว้บนฐานพระพุทธรูปได้สลักเอาไว้ว่า เจ้าสินประหญา หล่อ แล ศักราช ได้ 866 ตัว (จุลศักราช 866 เท่ากับ พุทธศักราช 2047)

 

ยิ่งขุดยิ่งเจอ แผ่นจารึก-ฐานพระสลักอักษร จมแม่น้ำโขง ถอดความระบุปีชัดเจน


โดยทางด้านเพจเฟซบุ๊ก ลายเมือง Lai-Muang ได้อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เจ้าสินประหญา เอาไว้ว่า นายสินประหญา (พ.ศ. 2038) เจ้าสินประหญา (พ.ศ. 2047) มหาเถรสินประหญาเจ้า (พ.ศ. 2049) ชื่อของพระเถระรูปหนึ่ง ที่ปรากฏอยู่ในจารึกและใบลานของล้านนา ซึ่งเป็นผู้สร้างใบลานเรื่อง มิลินทปัญหา ไว้กับหอไตร เมืองท่าสร้อย ในปี พ.ศ. 2038 ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นฆราวาสอยู่ และมีการกล่าวถึงอีกครั้งในจารึกวัดวิสุทธาราม เมืองพะเยา โดยญาติของท่านได้ถูกนำมาถวายเป็นข้าวัดวิสุทธาราม ในปี พ.ศ. 2049 จำนวน 4 ครอบครัว


และล่าสุดจากจารึกฐานพระพุทธรูปที่พบใหม่ จากดอนเผิ้งคำ ประเทศลาว ซึ่งประเด็นถกเถียงเรื่องความเก่าแก่ของโบราณวัตถุที่พบไปหมาด ๆ มีข้อความระบุว่า เจ้าสินประญาได้สร้างพระพุทธรูปองค์นี้ถวายไว้เมื่อปี พ.ศ.2047

 

ยิ่งขุดยิ่งเจอ แผ่นจารึก-ฐานพระสลักอักษร จมแม่น้ำโขง ถอดความระบุปีชัดเจน

 

ขอบคุณ FB : ขัตติยะบารมี ขัตติยะAphichit Sirichai , ลายเมือง Lai-Muang