- 07 ก.พ. 2568
โอละพ่อสุดเวทนา เด็ก 10 ขวบใช้ชีวิตลำพัง เร่ร่อน อดมื้อกินมื้อ หลังพ่อแม่ติดคุกกว่า 2 ปี ล่าสุดคดีพลิกที่แท้ก้าวร้าว ลักทรัพย์-เอี่ยวยาเสพติด
จากกรณี เมื่อวันที่ 5 ก.พ.68 สมาชิก TikTok รายหนึ่ง เผยคลิปเล่าเรื่องราวของน้องชาติ เด็กชายที่ต้องใช้ชีวิตลำพังตั้งแต่ 8 ขวบ ต้องใช้ชีวิตเร่ร่อน หลังพ่อแม่ติดคุก น้องอยู่คนเดียวตั้งแต่ 8 ขวบ ตอนนี้น้อง 10 ขวบ นอนท่าเรือมหาชัย แถวศาลเจ้าพ่อ นอนกับพื้นไม่มีที่นอนหรือผ้าห่ม ถามน้องว่าหนาวไหม น้องบอกหนาวมาก ถามว่าเคยกินไอศกรีมไหม น้องตอบไม่เคย
ถามน้องว่าคิดถึงพ่อกับแม่ไหม น้องบอกคิดถึงแต่ชิน นิ่งเงียบไป น้องไม่มีเพื่อน ใช้ชีวิตคนเดียว อาบน้ำก๊อก เสื้อผ้ามีชุดเดียวที่ใส่อยู่ รองเท้าหาย มีคนสงสารพาไปตัดผม น้องมีเงิน 27 บาท ซื้อน้ำกาโต๊ะไป 13 บาท มาม่ากล่อง 14 บาท ถามว่าหนูดูเวลาที่ไหน น้องบอกเซเว่น น้องน่ารักมากไม่ได้เรียนหนังสือ
ถามน้องว่าคิดถึงพ่อกับแม่ไหม น้องบอกคิดถึงแต่ชิน นิ่งเงียบไป น้องไม่มีเพื่อน ใช้ชีวิตคนเดียว อาบน้ำก๊อก เสื้อผ้ามีชุดเดียวที่ใส่อยู่ รองเท้าหาย มีคนสงสารพาไปตัดผม น้องมีเงิน 27 บาท ซื้อน้ำกาโต๊ะไป 13 บาท มาม่ากล่อง 14 บาท ถามว่าหนูดูเวลาที่ไหน น้องบอกเซเว่น น้องน่ารักมากไม่ได้เรียนหนังสือ
ซึ่งหน้าตาน้องดูเศร้าและเย็นชามาก ตอนถามเกี่ยวกับชีวิต น้องขอเงินคนผ่านไปผ่านมาประทังชีวิต บางวันก็ได้กิน บางวันก็อด นอนตามป้ายรถเมล์บ้าง ท่าเรือบ้าง พ่อแม่จะรู้ไหมว่าลูกลำบากขนาดนี้ น้องเก่งจังเลยลูกซึ่งคลิปดังกล่าวกลายเป็นไวรัลที่ชาวเน็ตต่างสงสารทั้งโซเชียล หลายคนต่างเป็นห่วงอยากให้น้องมีคนดูแล และได้รับโอกาสทางการการศึกษา
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวล่าสุด สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดสมุทรสาคร ได้เปิกดเผยว่า พม. ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ กรณีออกสื่อออนไลน์นำเสนอ เหตุพลเมืองดีพบและช่วยเหลือเด็กชายไม่มีผู้ดูแล เนื่องจากบิดาและมารดาต้องโทษจำคุกอยู่ในเรือนจำ อาศัยเร่ร่อนอยู่ที่ตลาดมหาชัย และบริเวณสวนสาธารณะศาลเจ้าพ่อหลักเมือง จังหวัดสมุทรสาคร
วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 13.00 น. นางพัชรมณฑ์ ปิติปัญญากุล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยหัวหน้าหน่วยงานทีม พม.หนึ่งเดียว จังหวัดสมุทรสาคร และตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมวางแผนให้ความช่วยเหลือ โดยให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว เกี่ยวกับประเด็นกรณีมีสื่อออนไลน์ได้นำเสนอ เหตุพลเมืองดีพบและช่วยเหลือเด็กชายเอ (นามสมมุติ) ไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 9 ปี ซึ่งได้ข้อมูลจากเด็กว่าไม่มีผู้ดูแล เนื่องจากบิดาและมารดาต้องโทษจำคุกอยู่ในเรือนจำ ต้องอาศัยเร่ร่อนอยู่ที่ตลาดมหาชัย และบริเวณสวนสาธารณะศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
โดยทีม พม.หนึ่งเดียว จังหวัดสมุทรสาคร ได้ชี้แจงข้อเท็จจริง และอธิบายกระบวนการคุ้มครองเด็กของกระทรวง พม. ซึ่ง พม. ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือครอบครัวของเด็กชายดังกล่าว มาแล้วหลายครั้ง เคยได้มีการรับเข้าคุ้มครองสวัสดิภาพ ณ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งขณะที่ครอบครัวของเด็กชายคนดังกล่าว อยู่ในการดูแลของบ้านพักเด็กฯ นั้น ทางครอบครัวได้มีพฤติกรรมทำลายข้าวของเครื่องใช้อุปกรณ์สำนักงานของบ้านพักเด็กฯ ได้รับความเสียหาย และมีพฤติกรรมพากันหลบหนีออกไปจากบ้านพักเด็กฯ
โดยปัจจุบันบิดาเด็กชายคนดังกล่าวได้ถูกผลักดันกลับประเทศต้นทาง ด้วยข้อหาหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย ส่วนมารดา พักอาศัยอยู่ในห้องเช่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลโกรกกราก ร่วมกับตายายของเด็กและบุตรอีก 3 คน ทั้งหมดไม่ได้ประกอบอาชีพ
ซึ่งเด็กชายคนดังกล่าวมีพฤติกรรมลักทรัพย์ ขอทานเร่ร่อน หนีออกจากบ้าน และมีพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยในวันที่ 5 - 6 กุมภาพันธ์ 2568 ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน พม.หนึ่งเดียว จังหวัดสมุทรสาคร ตามหาเด็กชายรายดังกล่าว ณ บริเวณที่คาดว่าเป็นที่พักอาศัยในที่สาธารณะ แต่ก็ไม่พบเด็กชาย และจากการสอบถามบุคคลในพื้นที่ แจ้งว่าพบเด็กชายคนดังกล่าวเป็นประจำ แต่ตั้งแต่เช้าวันนี้ยังไม่พบเด็กชายคนดังกล่าวเข้ามาในบริเวณนี้ และเมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าตรวจสอบที่พักอาศัยของมารดาเด็กชาย พบเพียงมารดาของเด็กชาย ซึ่งแจ้งว่าไม่พบตัวเด็กชายคนดังกล่าวและไม่ได้กลับบ้านพักเป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้ว
ทั้งนี้ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรสาคร และหน่วยงาน พม.หนึ่งเดียว จังหวัดสมุทรสาคร จะมีการติดตามและวางแผนการให้ความช่วยเหลือตามบทบาทภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับครอบครัวของเด็กชายต่อไป พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ หากพบเด็กชายคนดังกล่าว ให้แจ้งกลับมายังศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) หรือศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง