เบื้องลึก DSI จ่อออกหมายจับ "หม่อง ชิตตู" ขอศาลอาญารัชดาภิเษกออกหมายจับ 3 นายพลกองกำลัง BGF โยงขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ บังคับเหยื่ออินเดีย 7 ราย ค้ามนุษย์ พร้อมขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงิน พิจารณากรณีการฟอกเงินและยึดทรัพย์สิน

จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.สิริวิชญ์ เกษมทรัพย์ ผอ.กองคดีการค้ามนุษย์ ดำเนินการสืบสวนสอบสวน ขยายผลขบวนการการค้ามนุษย์ ในคดีพิเศษที่ 304/2565 กรณีดีเอสไอได้ให้ความช่วยเหลือชาวอินเดีย 7 ราย ตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซนเตอร์ ถูกบังคับค้ามนุษย์ ภายในพื้นที่ จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา 

เตรียมออกหมายจับ หม่อง ชิตตู DSI เปิดเบื้องลึก 3นายพลกองกำลัง BGF โยงแก๊งคอลฯ

ซึ่งมีการใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการกระทำความผิดอาชญากรรมข้ามชาติ และมีคนไทยร่วมเกี่ยวข้อง เป็นความผิดที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร กระทั่งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้เข้าหารือกับพนักงานอัยการ กองคดีค้ามนุษย์ 1 ชั้น 3 สำนักงานคดีค้ามนุษย์ สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ เพื่อพิจารณาพยานหลักฐาน พยานเอกสาร เตรียมดำเนินคดีขอศาลออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาเบื้องต้น 3 ราย ประกอบด้วย

เตรียมออกหมายจับ หม่อง ชิตตู DSI เปิดเบื้องลึก 3นายพลกองกำลัง BGF โยงแก๊งคอลฯ

  • 1.พันเอก ซอชิตตู่ (Colonel Saw Chit Thu) หรือ พันเอก หม่องชิตตู
  • 2.พันโท โมเต โธน (Lieutenant Colonel Mote Thone) 
  • 3.พันตรี ทิน วิน Tin Win (Major Tin Win)

ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น 

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 68 พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า คดีพิเศษดังกล่าวเป็นคดีนอกราชอาณาจักร จึงเป็นเหตุผลให้ดีเอสไอต้องหารือกับพนักงานอัยการตามขั้นตอน ส่วนการออกหมายจับ “3 นายพลกองกำลัง BGF” จะทำได้อย่างไร หากเจ้าตัวอยู่ประเทศเมียนมานั้น

เตรียมออกหมายจับ หม่อง ชิตตู DSI เปิดเบื้องลึก 3นายพลกองกำลัง BGF โยงแก๊งคอลฯ

ตนขอเรียนว่า กรณีของพันเอก ซอชิตตู่ (Colonel Saw Chit Thu) หรือพันเอก หม่องชิตตู จะเรียกว่าเป็นการกดดันก็ได้ เพราะในรายงานการสืบสวนสอบสวน พันเอกหม่องชิตตูมีพฤติกรรมมักเดินทางเข้า-ออก ระหว่างไทยและเมียนมา และพันเอกหม่องชิตตู ได้เดินทางเข้ามายังประเทศไทยเพื่อรับการรักษาพยาบาล ดังนั้น การที่ถูกออกหมายจับจะทำให้บุคคลไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้

 

อีกทั้งหมายจับจะมีผลให้เกิดการปัดกวาด ไม่ให้มีการสนับสนุนเรื่องแก๊งคอลเซนเตอร์อีกต่อไป ซึ่งเราหวังผลส่วนนี้ ทั้งนี้ หากพันเอกหม่องชิตตูเดินทางมาที่ประเทศไทยเมื่อใดก็จะถูกจับกุมตามหมายจับทันที 

 

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เผยอีกว่า ส่วนกระบวนการขอศาลออกหมายจับ 3 นายพลกองกำลัง BGF ได้แก่ พันเอก ซอชิตตู่ (Colonel Saw Chit Thu) หรือพันเอก หม่องชิตตู , พันโท โมเต โธน (Lieutenant Colonel Mote Thone) และ พันตรี ทิน วิน Tin Win (Major Tin Win) ทางดีเอสไอจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญารัชดาภิเษกพิจารณาออกหมายจับให้ ส่วนถ้ากลุ่มผู้ต้องหายังคงอยู่ประเทศเมียนมา

จะได้มีการหารือเรื่องวิธีการจับกุมอีกครั้ง แต่เราเน้นให้มีการออกหมายจับโดยศาลอาญาไว้ก่อน เพื่อให้มีผลกดดันกลุ่มคนที่ให้พื้นที่เครือข่ายแก๊งคอลเซนเตอร์ ทั้งนี้ ดีเอสไอจะได้มีการขยายผลไปในเรื่องเส้นทางการเงินของกลุ่มขบวนการดังกล่าว เพื่อดูองค์ประกอบความผิดในส่วนของการฟอกเงิน นำไปสู่การยึดและอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหา เพราะถือว่ามีความเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์โดยตรง 

เตรียมออกหมายจับ หม่อง ชิตตู DSI เปิดเบื้องลึก 3นายพลกองกำลัง BGF โยงแก๊งคอลฯ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 11 ก.พ.68 ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พ.ต.ต.สิริวิชญ์ เกษมทรัพย์ ผอ.กองคดีการค้ามนุษย์ และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เดินทางมาถึงสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อเตรียมเข้าพบและหารือกับพนักงานอัยการ กองคดีค้ามนุษย์ 1 ชั้น 3 สำนักงานคดีค้ามนุษย์ สำนักงานอัยการสูงสุด เกี่ยวกับรายละเอียดในคดีการสอบสวนเรื่องการค้ามนุษย์ของขบวนการกลุ่มผู้ต้องหา 3 นายพลกองกำลัง BGF และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง

 

เพื่อพิจารณาขอศาลทำการออกหมายจับในความผิด สนับสนุนการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ มาตรา 7(2) อุปการะโดยให้ทรัพย์สิน จัดหาที่ประชุมหรือที่พำนักให้แก่ผู้กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดย ร.ต.อ.สุรวุฒิ ยังไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่มาปักหลักรอแต่อย่างใด โดยระบุสั้น ๆ เพียงว่าจะขอลงมาให้สัมภาษณ์ทีเดียวหลังการหารือกับพนักงานอัยการเสร็จสิ้น