- 19 ก.พ. 2568
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ มีอายุกี่ปี ถึงจะต้องฉีดอีกครั้ง ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคทางเดินหายใจที่สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว การฉีดวัคซีนเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคและลดความรุนแรงของการระบาด
วัคซีนไข้หวัดใหญ่... สำคัญแค่ไหน จากสถานการณ์ในประเทศไทยตอนนี้ มีผู้ป่วยสะสม 107,570 ราย เสียชีวิต 9 ราย กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ กลุ่มอายุ 5 - 9 ปี ซึ่งสายพันธุ์ที่ตรวจพบมากที่สุดเป็น A/H1N1(2009) รองลงมาคือ B และ A/H3N2 ตามลำดับ แล้ว วัคซีนไข้หวัดใหญ่ มีอายุกี่ปี ถึงจะต้องฉีดอีกครั้ง
วัคซีนไข้หวัดใหญ่มีอายุกี่ปี? ข้อมูลจากโรงพยาบาลเปาโล ให้รายละเอียดไว้ดังนี้
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์
เนื่องจากไวรัสไข้หวัดใหญ่มีการกลายพันธุ์อยู่เสมอ และในแต่ละปีจะมีการแพร่ระบาดของสายพันธุ์หลักที่แตกต่างกันไป จึงทำให้ต้องมีการพัฒนาวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งองค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้เพิ่มไวรัสสายพันธุ์ B เข้าไปในการผลิตเป็นวัคซีน เพื่อการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เกิดเป็น Quadrivalent Influenza Vaccine ที่ครอบคลุมไวรัส 4 สายพันธุ์ดังต่อไปนี้
- ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A/H1N1
- ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A/H3N2
- ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B ตระกูล Victoria
- ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B ตระกูล Yamagata
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ควรฉีดเมื่อไหร่ และถี่แค่ไหนจึงจะเหมาะสม?
ช่วงอายุที่เหมาะสมสำหรับเริ่มต้นเข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ สามารถเริ่มฉีดได้ในทารกตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป และจำเป็นต้องได้รับวัคซีนทุกปี ปีละ 1 ครั้ง เนื่องจากวัคซีนจะมีการเปลี่ยนชนิดสายพันธุ์ย่อยไปทุกปีตามที่องค์การอนามัยโลก (WHO) คาดว่าจะระบาดในปีนั้นๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันโรคให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่พร้อมรับมือกับเชื้อที่จะเข้ามาใหม่ โดยเราสามารถแบ่งตามช่วงอายุของผู้เข้ารับการฉีดได้ดังนี้
- เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 8 ขวบ ให้ฉีด 2 เข็มในปีแรก โดยเว้นระยะเวลาให้ห่างจากเข็มแรก 1 เดือน
- หากในปีแรกได้ฉีดเพียงครั้งเดียว ในปีถัดมาให้ฉีด 2 ครั้ง แล้วหลังจากนั้นค่อยฉีดปีละครั้งได้
- บุคคลทั่วไปที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป ให้ฉีด 1 เข็ม และต้องรับการฉีดวัคซีนกระตุ้นทุกปี
ขอขอบคุณ : ข้อมูลจากโรงพยาบาลเปาโล