- 10 มี.ค. 2568
ผบก.น.2 เผย เร่งทำคดี‘ผกก.โจ้ให้ครบทุกมิติ เน้นหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ ด้าน ทวี สอดส่อง เร่งสอบปม เจ้าหน้าราชทัณฑ์โทรฯไปคุยกับครอบครัวผกก.โจ้เพื่อให้ถอนแจ้งความ
กรณี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ"ผู้กำกับโจ้" จำเลยคดีคลุมถุงดำ เสียชีวิตในเรือนจำกลางคลองเปรม ทำให้เป็นประเด็นคำถามในสังคมถึงสาเหตุที่แท้จริงงเกิดจากอะไรกันแน่ แม้ว่าวันนี้ 9 มี.ค.68 คณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายได้ทำการผ่าชันสูตรพลิกศพ "อดีตผู้กำกับโจ้" แล้วก็ตาม เบื้องต้นกลับพบว่า สาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากการขาดอากาศหายใจเพราะ ผูกคอจนเสียชีวิต ซึ่งแพทย์ให้น้ำหนักไปที่การกระทำด้วยตนเอง
ล่าสุด วันที่ 10 มี.ค.68 พล.ต.ต.เจษฎา สวยสม ผบก.น.2 ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงความคืบหน้าการเสียชีวิตของพ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ ว่า ในวันนี้ยังไม่มีการประชุม แต่กระบวนการสอบปากคำเริ่มมาเป็นเดือนแล้ว ซึ่งพนักงานสอบสวนก็ได้มีการนัดผู้ที่เกี่ยวข้องทยอยเข้ามาสอบปากคำ โดยตนเองก็ได้สั่งการเร่งรัดให้รีบดำเนินการโดยเร็ว ซึ่งกำชับให้มีการรายงานผลให้ทราบทุกระยะ ซึ่งหากมีความคืบหน้าอะไรจะมีการประชุมที่สน.ประชาชื่น
ส่วนการเรียกมาให้มาพบพนักงานาอบสวนนอกจากทางครอบครัวของผู้กำกับโจ้แล้ว ก็จะเรียกแพทย์ กรมราชทัณฑ์ และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำทั้งหมด ซึ่งทางรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ยืนยันจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
สำหรับผ้าขนหนูและ วัตถุพยานต่างๆที่พบในจุดเกิดเหตุนั้น จะต้องรอผลจากทางกองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์สำคัญที่สุด ทั้งผลแพทย์ และผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานต่างๆ รวมถึงกล้องวงจรปิด และพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง จะต้องมีการตรวจสอบให้ครบถ้วน
ทั้งนี้ด้านนายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความของผู้กำกับโจ้ ได้เปิดเผยว่า วันนี้ทางครอบครัวของผู้กำกับโจ้ ได้ประสานขอเลื่อนการนัดหมายเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนสน.ประชาชื่น จากเดิมในวันนี้ไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากขอไปดำเนินการเรื่องงานศพให้แล้วเสร็จก่อน และรอบการตรวจชันสูตรพลิกศพรอบ 2 จากสถาบันนิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
ด้าน พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงกรณีที่ "อดีตผู้กำกับโจ้" สมัครใจขอขังเดี่ยว เพราะกลัวถูกบุคคลอื่นทำร้ายนั้น โดยพันตำรวจเอกทวี ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม แต่ขออธิบายว่าห้องดังกล่าว ไม่ใช่ห้องขังเดี่ยว แต่เป็นห้องนอน ที่โดยปกติสามารถรองรับผู้ต้องขังได้ 4-5 คน แต่ "อดีตผู้กำกับโจ้" นอนคนเดียว และตอนกลางวันก็ยังสามารถไปร่วมกิจกรรมอื่นๆ ได้หมด
และวันก่อนเกิดเหตุก็ยังได้เข้าเยี่ยมญาติด้วย ซึ่งปกติแล้วสิ่งที่ผู้ต้องขังในเรือนจำเรียกร้องมาที่สุดก็คือพื้นที่การนอน แต่ประเด็นที่เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือล่าช้า เนื่องจากเรือนจำมีที่ประมาณ 100 ไร่ และต้องไปเอากุญแจที่อาคารด้านนอก กว่าจะมาถึงห้องขังจึงล่าช้า
ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้ที่ตนเองเคยให้สัมภาษณ์ว่า "อดีตผู้กำกับโจ้" มีอาการป่วยทางจิตเวชนั้น เนื่องจากเอกสารที่ออกมาของกระทรวงยุติธรรมทำให้ตนเองเข้าใจผิด เพราะเมื่อไปพูดคุยกับแพทย์ถึงรายละเอียดแล้ว พบว่าเป็นแค่อาการวิตกกังวล ไม่ใช่อาการป่วยทางจิตเวช
ส่วนประเด็นที่มีเจ้าหน้ากรมราชทัณฑ์โทรฯ ไปคุยกับครอบครัวของ "อดีตผู้กำกับโจ้" เพื่อให้ถอนแจ้งความ คดีทำร้ายร่างกายภายในเรือนจำ ประเด็นนี้พันตำรวจเอกทวีบอกว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพราะถ้ามีคนเสียชีวิต ก็ถือว่าเป็นโทษวินัยร้ายแรง จะต้องมีการสอบปากคำผู้คุมและเจ้าหน้าที่ที่เข้าปฏิบัติงานในขณะนั้นทั้งเรือนจำ
ขณะที่ผ้าขนหนู เป็นผ้าที่ใช้งบประมาณของกรมราชทัณฑ์จัดซื้อมา ซึ่งผู้ต้องขังได้รับหมดทุกคน ส่วนขนาดที่มีความคลาดเคลื่อนนั้น จริงๆแล้วหน่วยวัดคลาดเคลื่อน จริงๆ คือเป็นขนาดประมาณ 40-50 นิ้ว ไม่ใช่เซนติเมตร
ทั้งนี้พันตำรวจเอกทวี ยังบอกด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้หารือร่วมกับตำรวจ อัยการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้ดำเนินการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ก็มีความมุ่งมั่นที่จะคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนในเรือนจำ อะไรที่เป็นกฎระเบียบที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน หรือหลักกฎหมาย ก็ถึงเวลาสังคายนา
ต่อมานางสาวธนัญญา อุทธนผล น้องสาวของ "อดีตผู้กำกับโจ้" ก็ได้ยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยเฉพาะการเสียชีวิตของพี่ชายภายในเรือนจำ พร้อมขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ให้การช่วยเหลือ รู้สึกมั่นใจมากขึ้นหลังได้เข้าพบรัฐมนตรี ว่าจะทำให้ครอบครัวตนเองได้รับความเป็นธรรม