- 14 มี.ค. 2568
เอาหล่ะสิ เจ้าบ่าวเทงานแต่ง ส่งข้อความร่ายยาวหาเจ้าสาว บอกยังรัก - อยากกลับไปอยู่กันเหมือนเดิม ที่ผ่านมาก็ไม่เคยคิดหลอก
จากกรณีที่ น.ส.ชฎารัตน์ หรือ แน๊ก อายุ 34 ปี เจ้าสาวจากอำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้จัดงานแต่งงานร่วมกับนายพนัส หรือต้น อายุ 33 ปี เจ้าบ่าว ทั้งสองคบหากันผ่านโซเชียลมีเดียและกำหนดจัดงานแต่งงานที่บ้านของเจ้าสาว โดยมีการ์ดเชิญแขกจำนวน 500 คน แต่ในวันงาน เจ้าบ่าวไม่มาปรากฏตัว ไม่ได้นำขันหมากและสินสอดตามที่ตกลงกันไว้ และไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้เจ้าสาวและครอบครัวได้รับความเสียหายจากการเตรียมงาน ทั้งชุดเจ้าสาว สถานที่ และอาหารเลี้ยงแขก รวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท
ต่อมา เจ้าสาวได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ชะอวด เพื่อให้ดำเนินคดีกับเจ้าบ่าวในข้อหาฉ้อโกงและเรียกร้องค่าเสียหาย ทางด้านเจ้าบ่าวได้ออกมาอ้างว่าไม่สามารถมางานแต่งได้เนื่องจากประสบอุบัติเหตุล้มจนเส้นเอ็นขาด และถูกญาติฝ่ายเจ้าสาวมาด่าทอและข่มขู่ถึงโรงพยาบาล จึงตัดสินใจไม่เข้าร่วมงาน เจ้าบ่าวยืนยันว่าได้ออกค่าใช้จ่ายในการเตรียมงานแต่งเองทั้งหมด และต้องการทราบรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่ฝ่ายเจ้าสาวเรียกร้อง
เกี่ยวกับเรื่องนี้มีรายงานว่า เจ้าสาวได้เดินทางไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานีอีกครั้ง หลังจากที่ไปแจ้งความที่ สภ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เกี่ยวกับงานแต่งงาน แต่ที่เดินทางแจ้งความที่ สภ.พูนพินนั้น เกี่ยวกับเรื่องที่เจ้าบ่าวนำรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ไปจำนำ จนรถทั้ง 2 คันหายไป
ล่าสุดเจ้าบ่าวได้ทักไลน์หาเจ้าสาว โดยพิมพ์ข้อความมาว่า "ยังรักแน๊กเหมือนเดิม ที่ผ่านมาก็ไม่เคยคิดหลอกอะไรแน๊กเลย แต่คงห้ามความคิดแน๊กไม่ได้ เรื่องพ่อที่บอกทุกอย่างคือเรื่องจริงทั้งหมด แค่พ่อกับแม่รบกันที่ไม่ได้บอกแน๊ก ตั้งใจอยากให้ดีทุกอย่างเลย เรื่องสาวนั้นที่ออกข่าวว่าต้นเคยไปขอ ก็เคยบอกแน๊กแล้ว และไม่ได้ไปหลอกอะไรมัน หลังจากไม่แต่งมันยังหนีมาอยู่กับต้นเป็นปีเลย ถ้าไม่ดีมันมาทำไม
แต่นั้นมันคืออดีต ตอนนี้ต้นรักแน๊กจริงๆ ไม่ได้อะไรเลย อยากกลับไปอยู่กันเหมือนเดิม ไม่อยากเลิกกัน โดยที่เราไม่ได้รับกันเลย แต่ลึกก็รู้ว่าคงยาก ไม่ได้อยากหนีอะไร แต่ตอนนี้มีแต่คนมาขู่แล้วก็ไม่รู้เลยว่าใคร เข้าบ้านก็ไม่ได้ ไม่เคยคิดจะทิ้งภาระให้แน๊กเลย อะไรที่ช่วยได้อยากช่วยทุกอย่าง แต่สังคมมองต้นไม่ดีไปแล้ว ทั้งที่บางข่าวต้นไม่ได้เป็นคนทำ ต้นคิดว่าแน๊กรู้ดีที่สุด ไม่อยากแก้ตัวอะไรเลย แต่ตอนนี้ต้นทำอะไรไม่ได้จริงๆ ถ้าเป็นไปไปได้อยากกลับไปเหมือนเดิม ให้ทำยังไงก็ยอม จะไม่ขออะไรเลย แค่อยากบอกว่าตอนนี้ยังรู้สึกดีเหมือนเดิม"
ขณะที่เจ้าสาวได้ตอบแชทกลับไปว่า "เรื่องเราค่อยคุยกัน ประเด็นสำคัญรถแน๊กอยู่ไหน เอารถคืนมาตะ" แต่ฝ่ายเจ้าบ่าวไม่ยอมตอบแชตกลับมา
ทั้งนี้ น.ส.แน๊ก เปิดเผยว่า ตนจะไม่ขอคุยเรื่องคืนดี แต่จะเดินหน้าเอารถที่เจ้าบ่าวเอาไปจำนำคืน มีทั้งรถกระบะสี่ประตูหมายเลขทะเบียน ขก 7631 สุราษฎร์ธานี และรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน คงม 438 นครศรีธรรมราช โดยได้ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวนไว้แล้วก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันตนเองเป็นฝ่ายเสียหาย และลงทุนงานแต่งไปเยอะ เสียหน้า เสียตัว เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ก็จะฟ้องเพ่งเรียกค่าเสียหายทุกอย่าง จะไม่ขอคืนดี
อย่างไรก็ตามทางหญิงสาวยังบอกอีกว่า อีกอย่างก่อนวันแต่งที่เจ้าบ่าวนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล ให้ญาติไปสอบถามเจ้าบ่าวพูดคุยพูดจาเหมือนจะเลี่ยงงานแต่งทุกอย่าง ที่บอกว่าที่บ้านเจ้าบ่าวก็ได้มีการเตรียมงานแต่ง มีการตั้งเต็นท์นั้นไม่มีอยู่จริง เมื่อเช้าขับรถผ่านบ้านเจ้าบ่าวเหมือนบ้านร้าง ไม่ได้มีการเตรียมสถานที่จัดงานแต่อย่างใด