- 24 มี.ค. 2568
เสี่ยเจ้าอู่ซ่อมรถ ขี่รถจักรยานยนต์ไปเอาอะไหล่อู่น้องสาว ถูกเก๋งฟอร์ดป้ายแดงชนดับสลดคาสี่แยก เมียนั่งเฝ้าร่าง ร่ำไห้ปริ่มขาดใจ
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 24 มี.ค. 2568 พ.ต.ต.กิตติศักดิ์ พรรชณา สว.(สว.สอบสวน) สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิต บริเวณสี่แยกไฟแดงบางพฤกษ์ ถนนกัลปพฤกษ์ แขวงและเขตบางเเค กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อม แพทย์เวรนิติเวช โรงพยาบาลศิริราช อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นสี่แยกไฟแดงก่อนถึงหน้าปั๊มน้ำมันบางจาก ฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าแยกกำนันแม้น แบ่งเป็นถนน 3 เลน เหตุเกิดเลนซ้ายสุด พบรถยนต์ 4 ประตู สีดำ ทะเบียนป้ายแดง จังหวัดนนทบุรี จอดอยู่สภาพกันชนหน้ายุบเสียหาย ตรวจสอบบริเวณใต้ท้องรถ พบซากรถจักรยานยนต์ สีน้ำเงิน ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ถูกชนล้มตะแคงพังเสียหายยับเยินติดคาอยู่ใต้ท้องรถ
ใกล้กันพบร่างนายสด แซ่ลี้ อายุ 62 ปี เป็นเจ้าของอู่-ช่างซ่อมรถ (สมบัติ เจริญยนต์) สภาพนอนหงายจมกองเลือด มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศรีษะด้านขวา สวมเสื้อสีน้ำเงินทีแจ็คเก็ตคลุมสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงวอร์มสีน้ำเงิน นอนเสียชีวิตบนพื้นถนน ตรวจสอบตรงสี่แยกก่อนถึงจุดเกิดเหตุ พบร่องรอยขูดบนพื้นถนนยาวประมาณ 20 เมตร คาดเป็นจุดที่ผู้ตายถูกชน โดยทางภรรยาและครอบผู้ตายนั่งเฝ้าร่าง ร่ำไห้ ปริ่มใจจะขาดอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ
สอบสวนพยานเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตาย ซึ่งเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถอยู่ซอยศาลธนบุรี 17 ถนนกำนันแม้น กำลังขับขี่รถ จักรยานยนต์เพื่อไปเอาอะไหล่ที่ร้านอู่ซ่อมของน้องสาว ที่อยู่ถนนบางแค ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 1 กิโลกว่า ๆ
โดยผู้ตายขับขี่รถจักรยายนต์มาจากถนนกำนันแม้น ตรงเข้าเส้นกัลปพฤกษ์ เมื่อมาถึงสี่แยก กำลังจะเลี้ยวขวาตรงสี่แยกไฟแดงจุดเกิดเหตุ เข้าถนนบางแค จู่ ๆ มีรถยนต์คู่กรณี ขับตรงมาจากถนนกัลปพฤกษ์ในเลนซ้ายสุด ซึ่งเป็นเลนเลี้ยว ประกอบกับเป็นช่วงไฟเหลือง รถยนต์ดังกล่าวได้ขับพุ่งตรงฝ่าสัญญาณไฟชนรถจักรยายนต์ผู้ตายที่เลี้ยวขวามา ก่อนจะลากร่างและรถ จยย.ไปไกล กว่า 20 เมตร ส่งผลให้ศรีษะผู้ตายไปกระแทกกับก้อนหินริมฟุตปาธจนเสียชีวิต โดยคนขับรถยนต์คู่กรณีเป็นชายวัยรุ่น 2 คน ยังไม่พร้อมให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่จุดเกิดเหตุ พร้อมเชิญพยานและคนขับรถคู่กรณีไปสอบปากคำที่ สน. ส่วนร่างผู้เสียชีวิตเจ้าหน้าที่มอบให้อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำส่งไปชันสูตรเพิ่มเติมที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ รพ.ศิริราช ก่อนประสานญาติรับกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป