- 09 พ.ค. 2568
เสรีพิศุทธ์แถลงย้ำ ทักษิณไม่ได้ป่วยจริง! หลังแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ 3 ราย ชี้ควรให้ออกจากวิชาชีพ “ถ้าไม่ยุบสภาวันนี้ ก็ต้องรอดูอีกไม่นานจะเกิดอะไรขึ้น”
จากกรณีเมื่อวานนี้ (8 พ.ค.) แพทยสภามีมติชี้ขาดกรณีการรักษานายทักษิณ ชินวัตร ที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 โดยพบว่ามีแพทย์ 3 รายกระทำผิดจริยธรรมวิชาชีพ เนื่องจากออกใบส่งตัวและจัดทำเอกสารทางการแพทย์โดยไม่มีมาตรฐานและไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ส่งผลให้หนึ่งในแพทย์ดังกล่าวถูกลงโทษว่ากล่าวตักเตือน ขณะที่อีก 2 รายถูกพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม
วันนี้ (9 พ.ค.) เวลา 10.00 น. ที่พรรคเสรีรวมไทย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรค ได้แถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ที่แพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ 3 ราย จากกรณีการรักษานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยหนึ่งในแพทย์ได้รับการตักเตือนจากการออกใบส่งตัวและปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ขณะที่อีกสองรายถูกพักใช้ใบอนุญาตฯ เนื่องจากให้ข้อมูลหรือเอกสารทางการแพทย์ที่ไม่ตรงความจริง
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่าผลจากการพิจารณาของแพทยสภาแสดงให้เห็นว่าแพทย์มีการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ ซึ่งสอดคล้องกับที่ตนเคยให้ข้อมูลว่า นายทักษิณไม่ได้ป่วยจริง โดยยืนยันว่าเคยไปพบด้วยตนเองที่ชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจถึง 2 ครั้งและเห็นว่าเจ้าตัวแต่งกายลำลอง ไม่มีเครื่องช่วยพยุงใดๆ รวมถึงสามารถพูดคุยได้ตามปกติ
ในส่วนของมติแพทยสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งเรื่องให้ รมว.สาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ในฐานะนายกสภาแพทยสภา ให้ความเห็นชอบ โดยตนมองว่าการลงโทษเพียงการพักใบอนุญาตฯ ยังไม่เพียงพอ ควรจะต้องมีการพิจารณาลงโทษสถานหนักถึงขั้นให้ออกจากวิชาชีพ
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังฝากถึงเจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องว่าการให้ข้อมูลเท็จที่ผ่านมาไม่สามารถปิดบังความจริงได้อีกต่อไป พร้อมแนะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องพูดความจริงต่อศาลและ ป.ป.ช. เพราะอาจช่วยให้โทษเบาลงได้ครึ่งหนึ่ง นอกจากนี้ ตนยังตั้งข้อสังเกตถึงพฤติกรรมของครอบครัวนายทักษิณว่า ภรรยาอย่างคุณหญิงพจมานไม่เคยเข้าเยี่ยมที่โรงพยาบาล ขณะที่บุตรหลานก็มาเยี่ยมไม่บ่อย และเดินทางไปต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสะท้อนว่านายทักษิณอาจไม่ได้ป่วยจริงตามที่อ้าง และยังวิจารณ์บรรดาผู้ที่ออกมาปกป้องว่าไม่มีหลักฐานที่แท้จริง
เมื่อถามว่าประเด็นดังกล่าวนี้จะส่งผลกระทบต่อรัฐบาลในปัจจุบันหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า นายทักษิณมีอิทธิพลต่อลูกสาวอย่างชัดเจนเป็นคนที่คอยคล้ำลูกสาวอยู่ตลอด แม้จะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับรัฐบาล แต่พฤติกรรมที่นายทักษิณพูดหรือชี้นำ แล้วรัฐบาลทำตาม ก็เป็นข้อพิสูจน์ว่า น.ส.แพทองธาร ดำรงตำแหน่งได้เพราะบารมีของพ่อตัวเอง ท้ายที่สุดทางออกที่ดีที่สุดในสถานการณ์นี้คือการยุบสภาและลาออกก่อนที่จะถูกศาลวินิจฉัย “ถ้าไม่ยุบสภาวันนี้ ก็ต้องรอดูอีกไม่นานจะเกิดอะไรขึ้น”