ทนายรณณรงค์ กระชากเบื้องหลัง "ปัญหาเขตแดน" ที่หลายคนคาดไม่ถึง

ทนายรณณรงค์ เปิดเบื้องหลัง "แพทองธาร VS ฮุน มาเนต" ศึกเขตแดนไม่ใช่แค่แผนที่ แต่อาจเป็นสงครามอำนาจรุ่นลูกในเงารุ่นพ่อ ใครกำลังเขย่าความสงบ?

 

ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ระบุ

ความขัดแย้งชายแดน…หรือฉากหลังของอำนาจ?

เมื่อ “ลูกผู้นำ” ขึ้นมานั่งหัวโต๊ะ ทั้งไทยและกัมพูชาต่างมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่สืบทอดอิทธิพลจากรุ่นพ่อ:

• แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวทักษิณ

• ฮุน มาเนต ลูกชายฮุน เซน

แต่ท่าทีของทั้งสองกลับแตกต่างอย่างน่าจับตา…

ฝั่งไทย – แพทองธารเลือกใช้ถ้อยคำประนีประนอม พยายามดึงทุกอย่างกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจา เน้นกลไกทวิภาคี ไม่พูดถึงศาลโลก ไม่ปะทะตรง และยังส่งสัญญาณว่ารัฐบาลไทย “ไม่อยากให้เรื่องนี้บานปลาย”

ฝั่งกัมพูชา – ฮุน มาเนต เดินเกมเข้ม ใช้เวทีสาธารณะ–ทั้งในประเทศและต่างประเทศ–ดึงศาลโลกมาเป็นตัวกลาง ยืนยันว่าการใช้กฎหมายระหว่างประเทศคือ “หนทางเดียว” และได้รับการหนุนหลังอย่างเปิดเผยจาก “บิดาผู้ไม่วางมือ” อย่างสมเด็จฮุน เซน ที่โพสต์ตรง ๆ ว่า “ถ้าใช้กลไกทวิภาคี อีก 100 ปี ก็ไม่จบ”

เบื้องหลัง…อาจมากกว่าแค่เส้นเขตแดน

จากกรณี 4 จุดเสี่ยง (ตาเมือนธม ตาควาย ตาเมือนโต๊จ และสามเหลี่ยมมรกต) ที่ยังไม่มีข้อตกลงถาวร—ฝ่ายกัมพูชาอาจหยิบมาใช้เป็น “เครื่องมือการทูต” หรือแม้แต่ “แต้มต่อทางการเมือง” ภายในประเทศ ในขณะที่ฝ่ายไทยมีแรงกดดันจากทั้งภายในรัฐบาลและกองทัพ

และที่น่าสนใจที่สุด คือ “พ่อของนายกฯ ทั้งสองประเทศ”

• ทักษิณเลือกเงียบ ไม่ออกความเห็น แม้มีสายสัมพันธ์เดิมกับฮุน เซน

• ฮุน เซน กลับโพสต์แรง โจมตีตรง ยกไทยเทียบรัสเซีย ลากโลกเข้ามาเป็นพยาน

นี่ไม่ใช่แค่ “ปัญหาเขตแดน” — แต่นี่คือสนามประลองอำนาจระหว่างรุ่นพ่อและรุ่นลูก บนเวทีภูมิรัฐศาสตร์อาเซียน ที่อาจกระทบถึงประชาชนสองฝั่งมากกว่าที่เราคิด

ถ้า “ความสงบ” คือสิ่งที่เราต้องการ

…ต้องตั้งคำถามว่า “ใครกำลังทำให้เสียงปืนใกล้จะลั่น” มากกว่าการหลับตารอคำแถลงสวยงามหลังประชุม JBC

ทนายรณณรงค์ กระชากเบื้องหลัง ปัญหาเขตแดน ที่หลายคนคาดไม่ถึง