- 23 มิ.ย. 2568
พลโท บุญสิน พาดกลาง ลั่น พร้อมปิดด่านตลอดแนวชายแดนหากมีการปะทะกันระหว่าง 2 ฝ่าย ย้ำทหารจะอยู่เคียงข้างประชาชน
วันที่ 23 มิถุนายน 2568 บนเฟซบุ๊กของ วาสนา นาน่วม นักข่าวสายทหารชื่อดัง เผย "แม่ทัพภาค 2" พร้อมปิดด่านตลอดแนว หากมีปะทะ เผยกัมพูชาเสริมกำลังชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นการชิงความได้เปรียบทางทหาร เผยจะไปปราสาทตาเมือนธมวันนี้ เยี่ยมทหาร กำชับมาตรการป้องกันประชาชนไทย-เขมรกระทบกระทั่งที่ปราสาท
ขอคนไทยสามัคคี นำประเทศผ่านวิกฤติ ขอให้มั่นใจ ทหารอยู่เคียงข้างประชาชน
พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานการประชุม ผบ.หน่วยขึ้นตรงกองทัพบก โดยมีแม่ทัพภาคต่างๆ และผู้บังคับหน่วยเข้าร่วมประชุมที่กองบัญชาการกองทัพบก โดย พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 มาร่วมประชุมด้วย พลโท บุญสิน กล่าวถึงชายแดนไทย-กัมพูชาว่า วันนี้กลับไปจะลงพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม สุรินทร์ กับ ผบ.ทบ. เพื่อให้กำลังใจกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่
เมื่อถามว่า ได้มีการทำความเข้าใจกับประชาชนที่ไปทำกิจกรรม หรือทำสัญลักษณ์แสดงความรักชาติในพื้นที่หรือไม่ เพราะอาจจะเกิดเหตุการณ์เผชิญหน้ากับชาวกัมพูชา พลโท บุญสิน กล่าวว่า เรื่องนี้เราได้มีการชี้แจงมาโดยตลอด การอนุญาตให้ประชาชนได้ขึ้นไปในพื้นที่ต่างๆ เป็นไปตามห้วงเวลา และจะมีการประสานแจ้งให้อีกฝั่งรับทราบเช่นกัน
เมื่อถามว่า กรณีที่ทางฝั่งกัมพูชาได้มีการเพิ่มกำลังและอาวุธหนักเข้าพื้นที่เพิ่มเติมขึ้นนั้น พลโท บุญสิน กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เรื่องการทหารถือเป็นการชิงความได้เปรียบ ซึ่งเราพร้อมอยู่แล้วที่จะดูแลสถานการณ์ตามแนวชายแดน
แต่ยืนยันว่า เราไม่มีความประสงค์ที่จะปะทะกันด้วยอาวุธ แต่เป็นเรื่องของยุทธวิธีของทางฝั่งกัมพูชา
เมื่อถามว่า วันนี้ที่นายกรัฐมนตรีได้มีการเรียกหน่วยงานความมั่นคง อาจมีการยกระดับมาตรการตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาเพิ่มเติมหรือไม่นั้น พลโท บุญสิน กล่าวว่า คงต้องรอให้ได้ข้อยุติจากนายกรัฐมนตรีก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะออกมาในทิศทางใด
เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดในอนาคตว่าอาจต้องปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาตลอดแนวนั้น แม่ทัพภาค 2 กล่าวว่า ดูไปตามสถานการณ์ หากมีการต่อสู้หรือเกิดความไม่เข้าใจกัน ก็มีโอกาส
ส่วนการปิดด่านตลอดแนวหรือไม่นั้น เราจะเพิ่มการควบคุม แล้วจะบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งเป็นไปได้หมด ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ณ ห้วงเวลานั้น แต่จะพยายามพูดคุยเพื่อให้สถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว และมองว่าทางรัฐบาลคงมีช่องทางหรือแนวทางในการพูดคุยกับทางกัมพูชา แต่ยืนยันว่าต้องมีมาตรการ แต่จากการประเมินสถานการณ์ มีความเป็นไปได้ในอนาคตจะมีการปิดด่านไทย-กัมพูชาตลอดแนว แต่ทุกอย่างต้องประเมินตามสถานการณ์วันต่อวัน
หากเกิดการปะทะ หรือเกิดความไม่เข้าใจกัน ก็มีโอกาสที่จะปิดชายแดนตลอดแนว ซึ่งจะต้องมีการควบคุมเครื่องมาตรการที่เข้มข้นมากขึ้น แต่ยืนยันว่าต้องมีมาตรการ ซึ่งรอดูวันนี้อีกครั้งในระดับผู้บริหารของเรา
ส่วนที่กัมพูชาไม่ซื้อน้ำมันและก๊าซจากฝั่งไทยนั้น ถือเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่อยู่ประจำด่าน ซึ่งจะต้องควบคุมการเข้าออกที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่จะต้องคัดกรอง
ทั้งนี้ ทัพภาค 2 พร้อมจะอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนชาวกัมพูชา หากเข้ามาเติมน้ำมันเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน ตามหลักสิทธิมนุษยชน ซึ่งเราให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ทั้งคนป่วย เด็กนักเรียน รวมถึงการซื้อของอุปโภคบริโภค แต่หากเป็นการซื้อเพื่อการค้าในจำนวนปริมาณมาก ก็เป็นหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในแต่ละด่าน
"ผมอยากฝากถึงคนไทยทุกหมู่เหล่า ที่อาศัยอยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร ให้มีความรักความสามัคคีของคนในชาติรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ในภาวะที่ประเทศวิกฤติเช่นนี้ ส่วนทหารจะอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชน ขอให้มั่นใจว่า ชายแดนไทยเราจะมั่นคงปลอดภัยแน่นอน"
แม่ทัพภาค 2 กล่าว
#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด