เปิดภาพภารกิจ "อนุทิน" ขึ้นบินด้วยตัวเอง ภารกิจหัวใจติดปีก

เปิดภาพ "อนุทิน ชาญวีรกูล " ขึ้นบินภารกิจ "หัวใจติดปีก" รับอวัยวะผู้บริจาคจากอุดรฯ ส่งต่อชีวิตใหม่ให้ผู้ป่วย

วันที่ 24 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ปฏิบัติภารกิจสำคัญในโครงการหัวใจติดปีก โดยนำทีมแพทย์ซึ่งมี นพ.พัชร อ่องจริต อาจารย์ศัลยแพทย์ หัวหน้าสาขาศัลยศาสตร์หัวใจและทรวงอก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เดินทางด้วยเที่ยวบินฉุกเฉินไปยังจังหวัดอุดรธานี เพื่อรับอวัยวะจากผู้บริจาคที่มีภาวะสมองตาย และนำกลับมายังกรุงเทพมหานคร เพื่อทำการปลูกถ่ายให้แก่ผู้ป่วยที่กำลังรอคอยโอกาสในการมีชีวิตใหม่

 

เปิดภาพภารกิจ อนุทิน ขึ้นบินด้วยตัวเอง ภารกิจหัวใจติดปีก

เปิดภาพภารกิจ อนุทิน ขึ้นบินด้วยตัวเอง ภารกิจหัวใจติดปีก

 

ในภารกิจครั้งนี้ ได้รับอวัยวะที่สำคัญ ได้แก่ หัวใจ ตับ และไต ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในการผ่าตัดปลูกถ่ายแก่ผู้ป่วยที่มีรายชื่อรอรับการเปลี่ยนถ่ายอย่างเร่งด่วน โดยทุกวินาทีมีความสำคัญต่อความสำเร็จของกระบวนการทางการแพทย์ และความอยู่รอดของผู้ป่วย

 

เปิดภาพภารกิจ อนุทิน ขึ้นบินด้วยตัวเอง ภารกิจหัวใจติดปีก

 

นายอนุทินได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวสั้น ๆ แต่สะท้อนถึงภารกิจที่มีความหมายอย่างยิ่งว่า "Time to pick up heart again"

หรือแปลเป็นไทยว่า "ถึงเวลารับหัวใจอีกครั้ง" ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของความต่อเนื่องและความมุ่งมั่นของเขาในการสนับสนุนภารกิจด้านการแพทย์เร่งด่วนนี้

เปิดภาพภารกิจ อนุทิน ขึ้นบินด้วยตัวเอง ภารกิจหัวใจติดปีก

 

โครงการหัวใจติดปีก เป็นภารกิจการบินเพื่อขนส่งอวัยวะที่ได้รับบริจาคจากผู้เสียชีวิตในภาวะสมองตาย ไปยังโรงพยาบาลเป้าหมายอย่างเร่งด่วนที่สุด เพื่อให้การปลูกถ่ายสามารถดำเนินการได้ภายในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาชีวิตของผู้ป่วยที่มีความหวังสุดท้ายอยู่กับการปลูกถ่ายอวัยวะ

ทั้งนี้ นายอนุทินถือเป็นหนึ่งในนักการเมืองไม่กี่คนที่มีบทบาทอย่างต่อเนื่องในโครงการนี้ โดยเขาได้เริ่มเข้าร่วมและสนับสนุนภารกิจ "หัวใจติดปีก" มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 และยังคงลงพื้นที่จริงในหลายภารกิจ โดยไม่ได้จำกัดบทบาทไว้เพียงแค่ในเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น

 

เปิดภาพภารกิจ อนุทิน ขึ้นบินด้วยตัวเอง ภารกิจหัวใจติดปีก

 

ภารกิจในครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงพลังของเทคโนโลยีการแพทย์ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการสร้าง "โอกาสครั้งที่สอง" ให้แก่ชีวิตอีกมากมายที่กำลังรอความหวังอยู่ในโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ